วันที่ 10 ธันวาคม 2563 เวลา 15.47 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากเรือนรับรองที่ประทับ ค่ายกาวิละ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ประจำปีการศึกษา 2559 – 2560 ณ หอประชุมทีปังกรรัศมีโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในโอกาสนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาสังคม ซึ่งสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายและรับพระราชทานปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการพัฒนาสังคม ซึ่งสภามหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย
เวลา 17.46 น. สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง ร่วมกับกรมแพทย์ทหารบก หน่วยแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ออกหน่วยให้บริการตรวจสุขภาพโรคทั่วไป บริการตรวจสุขภาพด้วยเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง ตรวจอัลตราซาวด์ และตรวจภาพจอประสาทตา รวมทั้งบริการด้านทันตกรรมด้วยรถทันตกรรมเคลื่อนที่พระราชทาน การตรวจป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด – 19 ด้วยรถตรวจเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยเจ้าหน้าที่และบุคคลากรทางการแพทย์ที่เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ให้การตรวจรักษาแก่ผู้ป่วยในพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด -19 จึงพระราชทานคำแนะนำให้เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ควรได้เข้ารับการตรวจคัดกรองโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยในสุขอนามัยในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งในวันนี้มีผู้เข้าบริการตรวจรักษาทั้งหมด จำนวน 362 ราย และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทรงรับคนไข้ไวในพระบรมราชานุเคราะห์ จำนวน 7 ราย ที่ป่วยด้วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ประสาทหูไม่ได้ยินทั้งสองข้าง และโรคมะเร็ง พร้อมพระราชทานกล่องยาและเงินค่าพาหนะในการเดินทางไปเข้ารับการรักษา และทรงซักถามถึงอาการป่วยด้วยความสนพระราชหฤทัยและทรงห่วงใย ยังความปลาบปลื้มสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อผู้ป่วยและญาติอย่างหาที่สุดมิได้
จากนั้น ทรงเยี่ยมและทอดพระเนตรการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน ทั้ง 17 จังหวัดทางภาคเหนือ โดยกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยให้การสนับสนุน ภูมิปัญญา OTOP เชิงบูรณาการ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” ทอดพระเนตรการสาธิตเพ้นท์ร่มจากต้นฝ้ายของกลุ่มหัตถกรรมบ้านมอญ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งร่มเป็นผลิตภัณฑ์ทางภูมิปัญญาของชาวเชียงใหม่ตั้งแต่สมัยโบราณและสืบทอดกันมายาวนานจนถึงปัจจุบันนี้ แต่เดิมชาวบ้านทำแต่ร่มกระดาษสา ต่อมาได้มีการพัฒนาเปลี่ยนมาเป็นร่มผ้าหลายรูปแบบ จนเป็นที่สนใจและเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก
ต่อจากนั้น ทอดพระเนตรการจัดแสดงผลงานของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายและมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ที่ได้น้อมนำพระบรมราโชบายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านการพัฒนามาปรับใช้ โดยเน้นการมีส่วนร่วมกับชุมชน นำมาประกอบการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาชุมชนสังคมท้องถิ่นให้เข้มแข็ง โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายได้น้อมนำพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ด้วยการนำองค์ความรู้ด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์และการออกแบบผลิตภัณฑ์ไปให้ความรู้แก่คนในชุมชนเพื่อสืบทอดความเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนให้คงอยู่ต่อไป
ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 8 – 11 ธันวาคม 2563 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานเพื่อมาประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานแก่บัณฑิต ผู้ปกครอง ญาติบัณฑิต และประชาชนทั่วไป อย่างทั่วถึง ยังความปลี้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ติดต่อเรา
สงวนลิขสิทธิ์โดย หน่วยราชการในพระองค์
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของส่วนราชการในพระองค์ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ส่วนราชการในพระองค์ ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ส่วนราชการในพระองค์ ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ ส่วนราชการในพระองค์ จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น จดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า ขนาดภาษาหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์