ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับ
ผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันที่ 4 ตุลาคม 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 4,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับทราบ
ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลท่าดินดำ อำเภอชัยบาดาล จำนวน 23 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้
จังหวัดลพบุรี ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และอ่อนตัวเป็นพายุดีเปรสชั่นพาดผ่านภาคกลาง เมื่อช่วงวันที่ 25 – 26 กันยายน 2564 ทำให้เกิดฝนตกหนักถึง
หนักมากติดต่อกันในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ในพื้นที่ทั้ง 11 อำเภอ และในบางพื้นที่เป็นเส้นทางรับน้ำและน้ำหลากจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง จากสถานการณ์การเกิดอุทกภัยดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน วัด โรงเรียน ได้รับความเสียหายและผลกระทบ ใน 11 อำเภอ 94 ตำบล 703 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ราษฎรเสียชีวิต 9 ราย พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 507,538 ไร่ บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 7,487.3 ไร่ ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 60,334 ครัวเรือน ปัจจุบันสถานการณ์โดยรวมคลี่คลายแล้วใน 8 อำเภอ คงเหลืออีก 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอบ้านหมี่ และอำเภอชัยบาดาล
ที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และในบางพื้นที่เป็นที่ลุ่มและเส้นทางน้ำหลากยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่