ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับ
ผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันที่ 27 ตุลาคม 2564 เวลา 08.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิ
ราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 1,995 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่าง ๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ วัดสำปะซิว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและ
ผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยที่ได้รับผลกระทบให้ได้รับทราบ
ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จำนวน 5 ครอบครัว
ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้
จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของร่องลมมรสุมและอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และ “คมปาซุ” ทำให้เกิดฝนตกกระจายและตกหนักในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ ประกอบกับประตูระบายน้ำพลเทพ ประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา และประตูระบายน้ำสองพี่น้อง ได้เพิ่มปริมาณการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีน และเขื่อนกระเสียวได้ระบายน้ำลงสู่ลำห้วยกระเสียว ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำท่าจีนและพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 10 อำเภอ 110 ตำบล 983 หมู่บ้าน 35 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 56,075 ครัวเรือน ซึ่งจังหวัดได้เฝ้าติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือด้านการดำรงชีพ กับสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เครื่องสูบน้ำออกพื้นที่
ลุ่มต่ำ ระบายน้ำลงจากแม่น้ำท่าจีน รวมทั้งดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ ต่อไป
