เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หน่วยราชการในพระองค์ ขอเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2566

คนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ความป่วยเจ็บที่เริ่มจากความยากจน     ประชาชนต้องเผชิญเกินทนได้

ครั้นทรงเอื้อพระหัตถ์อุ่นละมุนละไม      กำลังใจจะหยัดยืนจึงคืนคง

          สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นผู้มีน้ำพระทัยอ่อนโยน เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา ทุกครั้งที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร จะทรงพบว่ามีราษฎรป่วยเจ็บด้วยโรคต่าง ๆ ไปเฝ้าฯ กันเป็นจำนวนมาก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์ที่ตามเสด็จช่วยตรวจรักษา หากคนไข้ คนใดจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ก็จะโปรดเกล้าฯ ให้ดำเนินการส่งตัวเข้าโรงพยาบาล ในภาคนั้น ๆ แต่หากว่าตนไข้ผู้นั้นเป็นโรคที่ต้องการแพทย์เฉพาะโรคที่ไม่มีในจังหวัดนั้น ๆ ก็ให้นำตัวส่งเข้ากรุงเทพฯ เพื่อให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุดจนกว่าจะหาย

          เนื่องจากเวลาที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรนั้น ในบางจุดมีคนป่วยมาก แพทย์ตามเสด็จไม่สามารถจะตรวจได้ในเวลาอันจำกัด พระองค์ก็โปรดเกล้าฯ ให้จัด ‘หน่วยแพทย์พระราชทาน’ เดินทางไปให้การตรวจรักษาโดยเฉพาะตามจุดต่าง ๆ บางครั้งก็เดินทางทางรถยนต์ บางครั้งทางเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ แล้วแต่ภูมิประเทศ

          หน่วยแพทย์พระราชทานนี้ มีนายแพทย์ดนัย สนิทวงศ์ฯ เป็นหัวหน้า มีข้าราชบริพาร เช่นนางสนองพระโอษฐ์ เจ้าหน้าที่กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปช่วยกันหยิบยา เขียนหน้าซอง อธิบายวิธีกินยาให้ละเอียด ตลอดจนจัดแถวเข้าพบแพทย์ แต่ต่อมาหมู่บ้านที่ห่างไกลการคมนาคมเหล่านี้ มีถนนตัดไปถึง และบ้านเมืองก็ได้ขยายงานด้านสาธารณสุขออกไปโดยรอบ หน่วยแพทย์พระราชทานเฉพาะจุดแบบนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

          ส่วนการที่แพทย์ตามเสด็จไม่มีเวลาพอที่จะตรวจรักษาคนไข้ตามจุดที่เสด็จพระราชดำเนินนั้นก็ทรงแก้ไขโดยโปรดเกล้าฯ ให้เดินทางไปคอยที่จุดเสด็จพระราชดำเนินล่วงหน้า ทำการตรวจรักษาจ่ายยาไปจนกว่าจะถึงเวลาเสด็จพระราชดำเนินก็สามารถตรวจรักษาจนครบถ้วนได้ นอกจากนี้ทางสาธารณสุข-จังหวัด และโรงพยาบาลประจำจังหวัด ก็ได้ร่วมมือจัดแพทย์และผู้ช่วยไปสมทบด้วยอีกคณะหนึ่ง เป็นการโดยเสด็จพระราชกุศลที่น่าอนุโมทนายิ่ง

          สำหรับคนไข้ที่โปรดเกล้าฯ ให้นำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลต่างๆ ในกรุงเทพฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นห่วงมาก จะทรงจำได้ว่ามีคนไข้คนใดบ้างที่มีอาการไม่ค่อยจะดี จะทรงสอบถามถึงอาการของเขาอยู่เสมอ โปรดเกล้าฯ ให้จัดนางสนองพระโอษฐ์และอาสาสมัครเวียนกันไปเยี่ยมเยียนคนไข้เหล่านี้ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ทุกวัน โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้ทำตัวประดุจญาติของเขา ที่เขาจะไว้ใจบอกเล่าทุกข์สุขอะไรให้ได้ เผื่อจะสามารถปัดเป่าบรรเทาความทุกข์ของเขาได้

วันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๒๓ เสด็จฯ ไปวัดดอยธรรมเจดีย์ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร

ความห่วงใยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีต่อราษฎรที่เจ็บป่วยนี้ เป็นความห่วงใยอย่างลึกซึ้ง จะโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์กองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง คอยติดตามความคืบหน้าของการรักษาพยาบาล จนกว่าคนไข้จะหายเจ็บ

วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๒๖ เสด็จฯ ไปบ้านจาร ตำบลม่วง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร เด็กหญิงผู้นี้อายุ ๒ เดือน สมองพิการแต่กำเนิด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แพทย์ดูแล และให้มารดาได้ทอผ้าไหมขิดเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว โดยพระราชทานอุปกรณ์ทั้งหมด

ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรักษาได้ ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระมหากรุณาแก่ครอบครัว เช่น พระราชทานการศึกษาแก่บุตรหรือคนใดคนหนึ่งของครอบครัว หรือพระราชทานงานศิลปาชีพเพื่อช่วยเหลือรายได้ของครอบครัว

วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๒๖ เสด็จฯ ไปบ้านกาหลง อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ผู้ป่วยรายนี้ขาซ้ายขาดด้วย พระราชทานให้ผู้ป่วยได้จับพระหัตถ์ จากนั้นได้ขอให้เจ้าหน้าที่ทางจังหวัดนราธิวาส ได้ดูแลความเป็นอยู่ และยังพระราชทานพระมหากรุณาจนทุกวันนี้

ขณะที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎร ทรงได้รับรายงานว่ามีคนไข้ที่จำเป็นต้องส่งตัวไปรักษาในโรงพยาบาลเป็นการด่วน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ให้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์รีบนำคนไข้เข้าเมืองไปส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้