เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หน่วยราชการในพระองค์ ขอเผยแพร่พระราชกรณียกิจ “ทรงพิทักษ์รักษาสรรพสิ่ง” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ทรงพิทักษ์รักษาสรรพสิ่ง

ห่วงโลกจะร้อนแล้ง          น้ำจะแห้งจะเหือดหาย

แผ่นดินจะมลาย          และส่ำสัตว์จะสิ้นสูญ

          สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โปรดธรรมชาติยิ่งนัก พระองค์เข้าพระทัยดีว่าป่าไม้  ต้นน้ำลำธารมีความสำคัญต่อชีวิตคนอย่างไรบ้าง จะทรงสอนข้าราชบริพารเสมอให้ช่วยรักษาป่า ระหว่างที่เสด็จแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่นั้น หากทรงว่างพระราชกิจ ตกบ่ายๆ จะทรงพระราชดำเนินไปตามทางเท้าขึ้นเขาเข้าป่าไปเสมอ ถ้าทรงพบว่ามีคนทิ้งก้นบุหรี่ลงบนกองใบไม้แห้ง และไฟกำลังคุขึ้น จะทรงตำหนิและรับสั่งกับข้าราชบริพารว่าไม่ควรทิ้งเชื้อไฟลงในป่า เพราะใบไม้แห้งเป็นเชื้อไฟอย่างดี หากเกิดไฟไหม้ ไฟจะลุกลามไปอย่างรวดเร็วทำให้ดับยาก และจะก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นได้อย่างมากมาย สัตว์ป่าจะแตกตื่นและอาจจะตายในกองไฟได้

          ทุกครั้งที่ทรงพระดำเนินไปพบว่าไฟกำลังลุกอยู่ ณ จุดไหน จะทรงหยุดขบวนและมีพระราชเสาวนีย์ให้คนในขบวนไปดับไฟเสีย  หากลุกลามเกินกำลังที่จะดับกันเองได้ ก็มีพระราชเสาวนีย์ให้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้มาดำเนินการ นอกจากนี้พระองค์ยังทรงมุ่งมั่นที่จะอบรมชาวบ้านให้ช่วยกันรักษาป่า เช่น สมุดภาพที่โปรดเกล้าฯ ให้ทำขึ้นพระราชทานศาลารวมใจเมื่อเกือบยี่สิบปีมาแล้ว ก็ได้ทรงสอดแทรกเรื่องรักษาป่าและต้นน้ำลำธารไว้ด้วย

          เมื่อได้ทรงพบว่าป่าไม้ถูกทำลายจนเหลือน้อยลงทุกที สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงทรงริเริ่มโครงการป่ารักน้ำขึ้นเป็นครั้งแรกที่จังหวัดสกลนคร เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๕ โปรดเกล้าฯ ให้หาที่ดินที่รกร้างว่างเปล่า หรือป่าที่เสื่อมโทรมแล้วเพื่อนำต้นไม้ไปปลูก และให้ชาวบ้านช่วยกันดูแล ทรงนำความขึ้นกราบบังคมทูลปรึกษาพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในเรื่องต้นไม้ที่จะนำไปปลูก โปรดให้ปลูกต้นไม้หลายจำพวกด้วยกัน คือไม้โตเร็ว เช่น กระถินยักษ์ ยูคาลิปตัส เพื่อให้ช่วยเป็นร่มเงาแก่ไม้เศรษฐกิจ เช่น ไม้สัก ไม้แดง ไม้เต็งรัง เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีไม้ใช้สอย เช่น ไม้ไผ่ แคบ้าน กระถิน ไม้เหล่านี้ปลูกสับหว่างกันไป เมื่อไม้เศรษฐกิจเติบโตแข็งแรง ก็อนุญาตให้ชาวบ้านตัดไม้โตเร็วและไม้ใช้สอยออกไปใช้ได้

          สวนสัตว์ป่านั้น ทรงพระราชดำริที่จะอนุรักษ์ไว้ไม้ให้สูญพันธุ์มานานแล้ว ก่อนที่จะตื่นตัวเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเช่นปัจจุบันนี้ เวลาเสด็จฯ ไปต่างจังหวัด มักมีชาวบ้านนำสัตว์ป่ามาถวาย เช่น นกเหงือก ไก่ฟ้า กระจง เป็นต้น จะโปรดเกล้าฯ ให้ส่งไปเลี้ยงไว้เพื่อขยายพันธุ์ เมื่อมีจำนวนมากแล้ว ก็ให้นำไปปล่อยคืนสู่ป่า

          งานด้านอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงริเริ่มมาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว แต่ยังไม่ใคร่มีผู้ทราบกันนัก คือ งานอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล เนื่องจากทรงเห็นว่าคนไทยนิยมรับประทานไข่เต่า หรือที่เรียกกันว่า ‘ไข่จะละเม็ด’ กันมาก ทรงเกรงว่าเต่าทะเลจะสูญพันธุ์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้หาซื้อที่เพื่อเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เต่าทะเล ซึ่งเมื่อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ได้ทราบถึงพระราชประสงค์ ก็ได้น้อมเกล้าฯ ถวายเกาะมันใน ในเขตจังหวัดระยอง ให้เป็นที่ทรงเพาะเลี้ยงเต่าทะเลตามพระราชดำริ โปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอกนิรันดร์ ศิรินาวิน สมุหราชองครักษ์ในสมัยนั้นเป็นผู้ดำเนินการโครงการ และพลเรือเอกนิรันดร์ได้ขอความร่วมมือจากกรมประมง “โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล” จึงได้กำเนิดขึ้นและอยู่ในความดูแลของกรมประมงตลอดมา สามารถเพาะพันธุ์เต่าทะเลได้เป็นจำนวนมาก เมื่อเต่าโตและแข็งแรงพอที่จะหาอาหารกินเองได้แล้ว ก็นำไปปล่อยลงในทะเล อาจจะเป็นไปได้ว่าที่เต่าทะเลในน่านน้ำไทยยังคงมีอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะความมีสายพระเนตรกว้างไกลของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ของเรานั้นเอง

สภาพของป่าเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๐๖

ดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๑

เมื่อได้ทรงพบว่า ป่าไม้ถูกทำลายลงจนเหลือน้อยลงทุกที จึงทรงริเริ่มโครงการ “ป่ารักน้ำ” ขึ้นในภาคอีสาน เมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๕ เพื่อเป็นการชักจุงให้ราษฎรรู้จักคุณค่าของป่าไม้ และช่วยกันบำรุงรักษาต้นไม้ไว้เพื่อไม่ให้พื้นดินต้องแห้งแล้งและกลับกลายไปเป็นทะเลทรายในที่สุด

ในแต่ละครั้งที่เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมบ้านป่ารักน้ำ จะทรงวัดความสูงและวัดรอบต้นยูคาลิปตัสว่าโตขนาดใดแล้วด้วยพระองค์เอง เพื่อเปรียบเทียบความเจริญเติบโตในแต่ละปี

โปรดเกล้าให้จัดหาอาชีพเสริมแก่สมาชิกบ้านป่ารักน้ำ และเสด็จฯ ไปทรงดูแลทุกข์สุขของสมาชิกเหล่านี้จนถึงบ้าน

๒๔ ธันวาคม ๒๕๒๕ ทรงปลูกต้นไม้ที่บ้านทรายทอง ตำบลโคกสี อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร

๑ กันยายน ๒๕๒๖ เสด็จฯ ไปบ้านโต๊ะโมะ ตำบลภูเขาทอง กิ่งอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส

๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๒๖ เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรต้นน้ำตกคำหอม

มีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรที่ปลูกป่าถวาย

ทรงปลูกต้นไผ่

๒๑ ธันวาคม ๒๕๒๖ เสด็จฯ ไปภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ

ทรงปล่อยเต่าทะเล