วันพฤหัสบดี ที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2563

ข่าวในพระราชสานัก
พระบรมมหาราชวัง
วันพฤหัสบดี ที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓
เมื่อวันพุธ ที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๕๐ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน
รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดาเนินไปทรงเปิดพิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี
อาเภอสวี จังหวัดชุมพร
ครั้นเสด็จพระราชดาเนินถึง เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา
พระพุทธนวราชบพิตร เสร็จแล้ว พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เฝ้าทูลละอองพระบาทกราบบังคมทูลรายงาน จากนั้น ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่อ “พิพิธภัณฑ์วัดพระบรมธาตุสวี” ทรงปลูกต้นกันเกรา แล้วทรงพระดาเนินไปยังพระบรมธาตุสวี ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะ เสร็จแล้ว ทรงพระดาเนินทอดพระเนตรภายในพิพิธภัณฑ์ ฯ พระบรมธาตุสวีสร้างขึ้นในสมัยอยุธยา เลียนแบบพระบรมธาตุเจดีย์จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเจดีย์ทรงระฆังแบบโอคว่า
เหนือขึ้นไปเป็นเสาหารก้านฉัตรบัวเถาปล้องไฉน ๗ ชั้น กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๔ ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี ๒๕๖๐ เป็นอาคารชั้นเดียว เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ บอกเล่าความเป็นมาของวัดพระบรมธาตุสวี แบ่งการจัดแสดงเป็น ๕ ส่วน อาทิ ห้องตานานพระบรมธาตุสวี กล่าวถึงพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้ยกทัพมายังวัดร้าง และพบฝูงกาบนกองอิฐ เมื่อรื้อกองอิฐพบฐานเจดีย์ใหญ่ ด้านล่างมีผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุซ่อนอยู่ จึงได้สร้างเจดีย์ขึ้นใหม่ และพระราชทานชื่อว่า “พระบรมธาตุกาวีปีก” คาว่า “วีปีก” แปลว่า กระพือปีก และเพี้ยนมาเป็นคาว่า “สวี” นอกจากนี้ ยังเก็บโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ และยุคประวัติศาสตร์ไว้จานวนมาก เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา และตระหนักถึงคุณค่าของประวัติศาสตร์ ซึ่งนอกจากจะมีมูลค่าที่ประเมินไม่ได้แล้ว ยังเป็นสิ่งมีค่า
ที่จะส่งต่อให้คนรุ่นหลังรู้สึกรักและหวงแหนบ้านเกิด
เวลา ๑๒.๓๓ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดาเนินไปทรงติดตามการดาเนินงานตามโครงการพระราชดาริ ฯ
ณ โรงเรียนตารวจตระเวนชายแดนบ้านควนสามัคคี ตาบลครน อาเภอสวี จังหวัดชุมพร
ครั้นเสด็จพระราชดาเนินถึง ผู้บัญชาการตารวจตระเวรชายแดน และข้าราชการ เฝ้า
ทูลละอองพระบาทรับเสด็จ จากนั้น พระราชทานพระราชวโรกาสให้ครูใหญ่ กราบบังคมทูลถวายรายงาน
ผลการดาเนินงานของโรงเรียน ความก้าวหน้าของโครงการตามพระราชดาริ กับสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องน้าบริโภคในโรงเรียน เสร็จแล้ว พระราชทานสิ่งของแก่ครูใหญ่ และผู้แทนนักเรียน จากนั้น ทรงพระดาเนินเข้าอาคารเรียน ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก เสร็จแล้ว ผู้บังคับการตารวจตระเวนชายแดนที่ ๔๑ เฝ้าทูลละอองพระบาทกราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับโครงการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยในโรงเรียนตารวจตระเวนชายแดน โครงการเพิ่มผลผลิตไม้ผลและถั่วเมล็ดแห้งในโรงเรียนตารวจตระเวนชายแดน และการดาเนินงานตามพระราชกระแสรับสั่ง เสร็จแล้ว ทรงพระดาเนินทอดพระเนตรการสาธิตการเรียน
การสอนวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ กิจกรรมห้องพยาบาล กิจกรรมเรื่องเล่าท้องถิ่น “มโนราห์”
/ของเด็กชั้นอนุบาล…
– ๒ –
ของเด็กชั้นอนุบาล โครงการฝึกอาชีพนักเรียน ได้แก่ กลุ่มผ้าบาติก ตัดผม ร้อยลูกปัด กิจกรรมห้องสมุด กิจกรรมประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันนักเรียน กิจกรรมสหกรณ์นักเรียน กิจกรรมปศุสัตว์ กิจกรรมประมง งานพัฒนาที่ดิน ในการนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ เฝ้าทูลละอองพระบาทด้วย
ในโอกาสนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทานจากโรงพยาบาลชุมพร โรงพยาบาลสวี
และโรงพยาบาลปากน้าหลังสวน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มาทาการตรวจรักษาราษฎรในพื้นที่ โดยตรวจรักษาโรคทั่วไปและทันตกรรมแก่ประชาชนและนักเรียน รวม ๑๑๖ คน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูก กับทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ จานวน ๘ ราย พร้อมกันนี้ ทรงเยี่ยมประชาชนจากบ้านควนสามัคคี บ้านเขาหลัก และพื้นที่ใกล้เคียง ที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ โดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทาสวนยางพารา สวนปาล์มน้ามัน และสวนทุเรียน สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดาเนิน
ไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว องค์การบริหารส่วนตาบลสวี อาเภอสวี จังหวัดชุมพร เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดาเนินกลับเรือนรับรองที่ประทับ เขื่อนรัชชประภา อาเภอตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี