กทม.รวมพลังจิตอาสาพัฒนาคลองไผ่สิงโต เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565

     เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาและปรับภูมิทัศน์คลองไผ่สิงโต เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2565 จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยร่วมกันดำเนินการขุดลอกคลองไผ่สิงโตโดยเครื่องจักร จากทางพิเศษเฉลิมมหานครถึงถนนรัชดาภิเษก ปรับภูมิทัศน์อาคารบังคับน้ำไผ่พิทักษ์และบ่อสูบน้ำสุขุมวิท ซอย 4 ปรับภูมิทัศน์คลองไผ่สิงโตจากถนนวิทยุถึงทางพิเศษเฉลิมมหานคร และจากถนนดวงพิทักษ์ถึงถนนรัชดาภิเษก เก็บขยะวัชพืชทั้งในคลอง ริมคลอง และหลังเขื่อน ค.ส.ล. เพื่อเปิดทางน้ำไหลและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ทาสีราวกันตกริมเขื่อน ปลูกต้นไม้ยืนต้น จำนวน 25 ต้น ได้แก่ หว้า 10 ต้น สะเดา 10 ต้น ขี้เหล็ก 5 ต้น และปลูกไม้พุ่มบริเวณริมตลิ่ง พร้อมตัดแต่งต้นไม้ด้านบนสะพานเขียว โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักงานเขตปทุมวัน สำนักงานเขตคลองเตย พร้อมข้าราชการ บุคลากรกรุงเทพมหานคร และกำลังพลจิตอาสาจาก กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) ร่วมกิจกรรม ณ สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย ทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

     ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้กทม.ได้มาทำจิตอาสาที่คลองไผ่สิงโต โครงการนี้เป็นโครงการที่ท่านนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ เพราะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างสวนเบญจกิติกับสวนลุมพินี ผ่านทางสะพานเขียว ก็จะเป็นโครงการที่ทำให้การเชื่อมสวน 2 สวน สมบูรณ์ขึ้น คลองไผ่สิงโตมีน้ำเน่าเสีย และมีกลิ่นเหม็น มีทัศนียภาพที่ไม่ดี การทำก็คือทำให้ภาพรวมดูดีขึ้น คลองไผ่สิงโตมีอุโมงค์รับน้ำบึงมักกะสัน มีบ่อรับน้ำจากถนนสุขุมวิทที่รับน้ำจากถนนสุขุมวิทมาลงที่นี่ จากที่นี่ก็ลงอาคารรับน้ำแล้วออกแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านอุโมงค์บึงมักกะสัน ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญ ถ้าเราปรับทัศนียภาพให้ดีขึ้น ก็จะเป็นการเชื่อม 2 สวนที่ดี เป็นโครงการที่เราทำตามนโยบายของโครงการจิตอาสา ก็ทำให้เกิดรูปธรรมจริง ๆ ต่อไปคงปรับทัศนียภาพให้ดี มีสวนริมคลอง ปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองไผ่สิงโตให้ดีขึ้น สวนสาธารณะ “เบญจกิติ” มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 450 ไร่ ประกอบด้วยส่วนที่สวนน้ำ 130 ไร่ และส่วนที่เป็นสวนป่า 320 ไร่

     โดยมีแนวความคิดในการออกแบบเพื่อให้เป็นมากกว่าสถานที่ออกกำลังกายและพักผ่อนหย่อนใจเหมือนสวนสาธารณะทั่ว ๆ ไป แต่เป็นที่สีเขียวกลางเมืองที่มีประโยชน์ในการรองรับและซับน้ำในช่วงฤดูฝนตามแนวคิดของเมืองฟองน้ำ (sponge city) ด้วยการสร้างพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นบ่อธรรมชาติจำนวน 4 บ่อไว้ในพื้นที่สวน โดยใช้คลองไผ่สิงโตเป็นแหล่งน้ำสำหรับเติมบ่อทั้ง 4 ของสวนป่าสำหรับใช้ในหน้าแล้ง โดยน้ำจากคลองจะผ่านการบำบัดน้ำด้วยวิธีธรรมชาติด้วยพืชน้ำชนิดต่าง ๆ ที่อยู่ภายในสวน แต่ปัจจุบัน คลองไผ่สิงโตเกิดการตื้นเขินจากเลนที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้สภาพน้ำเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็น กรุงเทพมหานคร จึงได้ดำเนินการขุดลอกคลองและปรับปรุงคุณภาพน้ำในคลองไผ่สิงโตให้ดีขึ้น รวมถึงการปรับภูมิทัศน์ตลอด 2 ฝั่งคลองให้สวยงาม ซึ่งนอกจากจะทำให้น้ำที่นำมาใช้ในสวนป่าเบญจกิติมีคุณภาพดีขึ้นแล้ว ยังช่วยทำให้เส้นทางการเดินเชื่อมต่อระหว่างสวนลุมพินีและสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” ผ่านทางสะพานเขียวมีความสวยงามมากขึ้นอีกด้วย