คำกราบทูล ของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภา ในพิธีพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติและเงินช่วยเหลือแก่ครูอาวุโส ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2562

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ.2562
คำกราบทูล(๑) 

ของ 
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภา 
ในพิธีพระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติและเงินช่วยเหลือแก่ครูอาวุโส 
ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต 
วันศุกร์ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๒ 


ขอประทานกราบทูลทราบฝ่าพระบาท 


เกล้ากระหม่อม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง 
ศึกษาธิการ ประธานกรรมการคุรุสภา พร้อมด้วยคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการ 
มาตรฐานวิชาชีพ และคณะกรรมการมูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์ 
เจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และครูอาวุโส ประจำปี ๒๕๖๐ รู้สึกสำนึกใน 
พระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า 
โปรดกระหม่อม ให้ฝ่าพระบาทเสด็จออกแทนพระองค์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส 
ให้เกล้ากระหม่อมและคณะเข้าเฝ้าใต้ฝ่าพระบาท ในวันนี้ 


เกล้ากระหม่อมขอประทานกราบทูลรายงานเรื่องเงินกองทุนมูลนิธิช่วยครู
อาวุโส ฯ ว่าขณะนี้มีเงินทุนทั้งสิ้น ๑๐,๕๐๐,๐๐๐ บาท (สิบล้านห้าแสนบาทถ้วน) 
มูลนิธิช่วยครูอาวุโสฯ ให้ความช่วยเหลือแก่ครูอาวุโส ให้ได้รับพระราชทานเครื่องหมาย 
เชิดชูเกียรตินับตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๑๐ จนถึงปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ ไปแล้ว 
จำนวน ๑๒๖,๗๙๖ คน ในจำนวนนี้ มีครูอาวุโสที่ได้รับการช่วยเหลือทางการเงิน 
จำนวน ๒,๐๒๗ คน เป็นเงิน ๒๓,๔๒๐,๐๐๐ บาท (ยี่สิบสามล้านสี่แสน 
สองหมื่นบาทถ้วน) 


(๑) ถ้อยคำและอักขรวิธีตรงตามต้นฉบับ 


412

ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๐ คณะกรรมการมูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรม 
ราชูปถัมภ์ ได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลผู้มีคุณสมบัติถูกต้องตามระเบียบมูลนิธิช่วยครู
อาวุโส ฯ ให้มีสิทธิได้รับประทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงิน 
ช่วยเหลือ จำนวนรวม ๑๓,๘๒๔ คน รายละเอียดดังนี้ 


- ได้รับประทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือ 
จำนวน ๓๐ คน 


- ได้รับประทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และประกาศนียบัตร จำนวน 
๑๓,๗๙๔ คน โดยมีครูอาวุโสที่ภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ และ 
บางคนอยู่ในท้องถิ่นที่ห่างไกล ไม่สามารถเดินทางมาเข้าเฝ้า ฯ ได้ จึงมีครูอาวุโส 
ที่มาเข้าเฝ้า ฯ ในครั้งนี้ จำนวน ๓,๔๑๒ คน 


นอกจากตอบแทนคุณงามความดีของครูที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยการให้ได้รับ 
พระราชทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือแล้ว คุรุสภา 
ยังได้ยกย่องเชิดชูเกียรติครูที่ล่วงลับไปแล้ว โดยการรวบรวมประวัติและผลงาน จัดพิมพ์
เป็นหนังสือที่ระลึกเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณครูในงานวันครู ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๖ มกราคม 
ของทุกปีเป็นประจำ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๐๐ จนถึงปีพุทธศักราช ๒๕๖๐ 
มีประวัติครูซึ่งจัดพิมพ์แล้วรวม ๙๘๐ คน ในปีนี้ได้จัดพิมพ์ประวัติและผลงานของครู
ที่ล่วงลับไปแล้วอีก ๒๔ คน ด้วยครูเหล่านี้ขณะยังมีชีวิตอยู่ได้ประกอบคุณงามความดี 
มีความสามารถในด้านการศึกษา สร้างบุคคลให้มีความรู้ มีศีลธรรม และวัฒนธรรม 
สนองความต้องการของประเทศในด้านต่างๆ นานัปการ และได้จัดทำหนังสือประวัติครู 
ฉบับพิเศษ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๐ เพื่อเผยแพร่พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ 
ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถ 
บพิตร “พระผู้ทรงเป็นบูรพาจารย์แห่งแผ่นดิน” ให้แผ่ไพศาลสืบไป ซึ่งข้าพระพุทธเจ้า 
ได้ทูลเกล้า ฯ ณ โอกาสนี้ด้วยแล้ว 


ในโอกาสมหามงคล เกล้ากระหม่อมขอถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญ 
คุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมทั้งอานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช 
โปรดดลบันดาลอภิบาลรักษา ขอจงทรงเกษมสำราญ เจริญพระชันษายิ่งยืนนาน เป็น 
มิ่งขวัญของปวงเกล้ากระหม่อมทั้งหลายตลอดจนพสกนิกรชาวไทยสืบไป และขอรับ 
ประทานพระโอวาท เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เกล้ากระหม่อมทั้งหลาย พร้อมทั้งขอประทาน 
อนุญาตเบิก นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ เลขาธิการคุรุสภา เพื่อกราบทูลเบิกครูอาวุโส 
ประจำปี ๒๕๖๐ ในกรุงเทพมหานคร ถึงจังหวัดปราจีนบุรี จำนวนทั้งสิ้น ๑,๗๙๘ คน 


413

เข้าเฝ้า ฯ รับประทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ ประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือ 
รายละเอียด ดังนี้ 


- รับประทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติประกาศนียบัตร และเงินช่วยเหลือ 
จำนวน ๓ คน 


- รับประทานเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ และประกาศนียบัตร จำนวน 
๑,๗๙๕ คน 


ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด 


414