คำกราบบังคมทูล(๑) ของ นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ประธานอำนวยการงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย รายงานชีวประวัติศาสดามุฮัมหมัด ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (ซ.ล.) โดยสังเขป เนื่องในงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๐ (พุทธศักราช ๒๕๖๒) ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ วันพุธที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๒ ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรีประธานอำนวยการ งานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ขอพระราชทานกราบบังคมทูลชีวประวัติศาสดา มุฮัมหมัด ซ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (ขอพรและความศานติจงมีแด่ท่าน) พอเป็น สังเขป ดังนี้ ตลอดระยะเวลา ๑๓ ปี ที่มุฮัมหมัดได้รับวิวรณ์ และแต่งตั้งเป็นศาสดาและ ศาสนทูตของอัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า ให้เผยแผ่สัจธรรมอิสลาม ณ มหานครมักกะห์ บนคาบสมุทรอาหรับ อันร้อนระอุและคับคั่งด้วยชาวเมืองที่ขาดคุณธรรมและบรรดาผู้คน จากทุกสารทิศที่เดินทางมาเยือนมหาวิหารกะอ์บะห์ในเวลานั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์กลาง ทางเศรษฐกิจที่เชื่อมต่อกับนานาแว่นแคว้นและหัวเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะดินแดนชาม อันหนาวเหน็บหรือซีเรียในปัจจุบัน จึงทำให้เกิดความหลากหลายทางพหุอารยธรรม (๑) ถ้อยคำและอักขรวิธีตรงตามต้นฉบับ 94
ถึงกระนั้นก็ตาม ชาวมักกะห์ก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมที่ขาดคุณธรรม และในช่วงเวลา ดังกล่าว ศาสดามุฮัมหมัดได้ธำรงตนในการดำเนินชีวิตอันเป็นบทเรียนแห่งประวัติศาสตร์ ที่ลํ้าค่า ทั้งทางยุทธศาสตร์ เศรษฐศาสตร และการปกครอง ที่หล่อหลอมด้วยสัจธรรม อิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยุทธวิธีการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้มาดร้ายต่ออิสลาม แต่ การยืนหยัดในสัจธรรม ณ มหานครมักกะห์ ก็ไม่สามารถจะต้านทานความอธรรม ไว้ได้ อัลลอฮ์ พระผู้เป็นเจ้า จึงมีพระบัญชาให้อพยพไปยังมหานครมะดีนะห์ ซึ่งได้รับ การต้อนรับจากชาวเมืองอย่างดียิ่งเยี่ยงญาติสนิท และตลอดระยะเวลา ๑๐ ปี ณ มหานครมะดีนะห์ จึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งในทุกมิติของการเผยแผ่ สัจธรรมอิสลาม ซึ่งได้อานิสงส์จากบทเรียนทางยุทธศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และ การปกครอง จากมหานครมักกะห์มาเป็นจุดสร้างและปฏิรูปสังคม และวางธรรมนูญ การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน เพื่อธำรงคุณธรรมและรักษาความยุติธรรมให้แก่สังคมเมือง มะดีนะห์ที่มีความหลากหลายทางเผ่าพันธุ์ สมดังเจตนารมณ์ในการแต่งตั้งศาสดา มุฮัมหมัดเพื่อนำความเมตตามาสู่มวลมนุษยชาติ เพื่อหล่อหลอมจิตวิญญาณให้มี คุณธรรมจริยธรรมและมีจิตสำนึกในการแบ่งปันและเผื่อแผ่ผู้ร่วมโลก อีกทั้งเป็นผู้มี จิตสาธารณะในการสร้างคุณประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม อันเป็นกระบวนการที่จะนำมา ซึ่งความร่วมมือในการพัฒนาตนเอง สังคม และประเทศชาติ ให้มีความสงบร่มเย็น เป็นสุขตลอดไป บัดนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตเบิก นายอนันต์ วันแอเลาะ ประธานจัดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๔๐ กราบ บังคมทูลถวายรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ครั้งนี้ เป็นลำดับไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม 95