พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดีย(๑) เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันอังคาร ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ท่านเอกอัครราชทูต ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานาธิบดีแห่ง สาธารณรัฐอินเดีย แต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐ อินเดียประจำประเทศไทย พร้อมด้วยอักษรสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน. ขอขอบใจท่านประธานาธิบดี ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้าและประชาชนชาวไทย ทั้งขอแสดงความปรารถนาดี เพื่อความสุขของท่านประธานาธิบดี และความเจริญ รุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวอินเดีย. ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชม ที่ท่านได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประเทศไทย กับสาธารณรัฐอินเดีย และความร่วมมือในกิจการหลากหลายด้าน ทั้งระดับทวิภาคี และระดับภูมิภาค. ความสัมพันธ์และความร่วมมือดังกล่าว ได้ดำเนินมาอย่างใกล้ชิด สนิทสนม และนับวันจะทวีเพิ่มพูนยิ่งขึ้น. ทั้งนี้ เพราะประเทศของเราทั้งสองมี ประวัติความสัมพันธ์อันลึกซึ้งมาแต่โบราณกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านศาสนา ภาษา เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม อันก่อให้เกิดประโยชน์สุขและความวัฒนาสถาพร แก่ประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่ายเป็นลำดับมาถึงปัจจุบัน. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์และความร่วมมือในกิจการทุก ๆ ด้านระหว่างประเทศทั้งสอง อันตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความผูกพันฉันมิตรที่ดีต่อกันนี้ รวมทั้งความตั้งใจของท่าน ที่จะกระชับสัมพันธไมตรีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่เพียงจะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ (๑) Ms. Suchitra Durai 215
ประเทศและประชาชนของเรา มีความเข้าใจอันดี และความเจริญร่มเย็นเป็นสุข เท่านั้น หากยังจะเป็นผลเกื้อกูลให้นานาประเทศและมวลมนุษยชาติในภูมิภาคนี้ และทั่วโลก มีเสถียรภาพ และสันติสุขอันยั่งยืนตลอดไปด้วย. ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุน อย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือ ทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน. 216