พระราชดำรัส สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในพิธีเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ฮิจเราะห์ศักราช 1437 ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ วันเสาร์ ที่ 30 เมษายน 2559

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ.2559

พระราชดำรัส

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร
ในพิธีเปิดงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๓๗
ณ ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ
วันเสาร์ ที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๙

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีเปิดงานเมาลิดกลาง
แห่งประเทศไทยประจำปีนี้. ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่มีโอกาสได้มาร่วมในพิธีสำคัญที่
ชาวไทยมุสลิมพร้อมใจกันจัดขึ้นอีกวาระหนึ่ง.

การที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมรำลึกถึง ท่านนบีมูฮำมัด
ผู้เป็นศาสดาแห่งศาสนาอิสลาม นับเป็นกุศลกิจที่ควรแก่การนิยม ยกย่องอย่างยิ่ง
เพราะเป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ซึ่งเป็น คุณธรรมอันประเสริฐ.
ความกตัญญูกตเวทีนั้น ก็คือความมีใจรับรู้ความดีของผู้อื่น และยินดีเต็มใจที่จะทำความดีสนองคุณท่าน.
ท่านศาสดามูฮำมัดเป็นผู้ทรงคุณความดี ยิ่งใหญ่ เพราะได้นำศาสนธรรมมาประกาศสั่งสอน
ให้ชาวโลกได้ประจักษ์ถึงแนวทาง ประพฤติปฏิบัติ ที่จะนำบุคคลให้บรรลุถึงความสุขความเจริญในชีวิต
และการที่จะอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกร่มเย็น ด้วยความเมตตาเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน.
การแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อท่าน จึงไม่มีวิธีการใดสมควรยิ่งไปกว่า การศึกษาศาสนธรรม
คำสอนของท่านทุกส่วนทุกข้อให้ทราบชัด แล้วน้อมนำมาปฏิบัติให้ถูกตรงและ
เคร่งครัด ก็จะส่งเสริมให้แต่ละคนมีชีวิตที่สุขสมบูรณ์ทุกด้าน ทั้งสามารถจะสร้างสรรค์
ความเป็นมิตรไมตรีอันแท้จริง ให้บังเกิดและเจริญถาวรตลอดไปในหมู่ชาวโลกได้ เป็นแน่นอน.

ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ข้าพเจ้าขอเปิดงานเมาลิดกลาง แห่งประเทศไทย
ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช ๑๔๓๗ ณ บัดนี้. ขอให้การจัดงาน ครั้งนี้ดำเนินลุล่วงไปด้วยดี และสำเร็จผลตามเจตจำนงที่ตั้งไว้ทุกประการ.

129