พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตมาเลเซีย เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันเสาร์ ที่ 8 ธันวาคม 2561

วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2561
พระราชดำรัส 

ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตมาเลเซีย(๑) 
เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง 
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต 
วันเสาร์ ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๑ 

ท่านเอกอัครราชทูต 

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับพระราชสาส์นตราตั้งจากสมเด็จพระราชาธิบดี
แห่งมาเลเซีย ทรงแต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งมาเลเซีย 
ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยพระราชสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน. 

ขอขอบพระทัยสมเด็จพระราชาธิบดี ในพระราชปรารถนาดีที่มีต่อข้าพเจ้า 
ประเทศ และประชาชนชาวไทย ขอถวายพระพรให้ทรงพระเกษมสำราญ ทั้งขอให้
ประเทศและประชาชนชาวมาเลเซีย ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองสืบไป. 

ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชม ที่ท่านได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรอันมีประวัติมา 
ยาวนานระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย. ความสัมพันธ์ดังกล่าว ได้ดำเนินมาอย่าง 
สนิทสนมราบรื่น และนับวันจะเจริญงอกงามยิ่งขึ้น. ทั้งนี้ เพราะประเทศของเราทั้งสอง 
นอกจากจะมีมิตรไมตรีในฐานะประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ชิดติดกันแล้ว ยังได้ร่วมมือ 
ช่วยเหลือเกื้อกูลในภารกิจสำาคัญหลากหลายด้าน ทั้งระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาค 
และระดับโลก เช่น ในกรอบของประชาคมอาเซียน ซึ่งได้ก่อประโยชน์อเนกอนันต์
แก่การพัฒนาประเทศของเรา และประเทศทั้งหลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย. 
ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือในทุกภารกิจและทุกเรื่องที่มีอยู่ระหว่างประเทศและ 
ประชาชนทั้งสองฝ่าย บนพื้นฐานแห่งไมตรีจิตมิตรภาพอันแนบแน่น จะช่วยส่งเสริม 
สัมพันธไมตรีให้กระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อีกทั้งจะช่วยสร้างเสริมประเทศของเรา รวมทั้ง 

(๑) Dato’ Jojie Samuel 

439

ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้และภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก ให้มีความมั่นคง ความเจริญ 
ก้าวหน้า และความร่มเย็นเป็นสุขอันยั่งยืนตลอดไป. 

ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุน 
อย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือ 
ทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน. 

440