พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันศุกร์ ที่ 5 พฤศจิกายน 2564

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2564

พระราชดำรัส
ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรภูฏาน (๑)
เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันศุกร์ ที่ 5 พฤศจิกายน 2564
——————

ท่านเอกอัครราชทูต

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับพระราชสาส์นตราตั้งจากสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทรงแต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรภูฏานประจำประเทศไทย พร้อมด้วยพระราชสาส์นถอน
เอกอัครราชทูตคนก่อน.
ขอขอบพระทัยสมเด็จพระราชาธิบดี ในพระราชปรารถนาดีที่ทรงมีต่อข้าพเจ้า กับทั้งขอถวายพระพรให้ทรงพระเกษมสำราญ และขอให้ประเทศและประชาชนชาวภูฏาน ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองสืบไป.
สัมพันธไมตรีระหว่างประเทศไทยกับราชอาณาจักรภูฏาน ได้งอกงามหยั่งรากลึกมาเป็นลำดับ นับแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน. ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศของเราทั้งสองมีมิตรไมตรีอันดี และความร่วมมือที่ใกล้ชิดในกิจการด้านต่าง ๆ อันก่อเกิดความผูกพันและผลประโยชน์ต่อกันตลอดมา. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า มิตรภาพและความร่วมมือในกิจการทุก ๆ ด้านที่มีอยู่ระหว่างประเทศทั้งสอง กอปรกับความตั้งใจของท่าน ที่จะกระชับมิตรภาพ และขยายขอบเขตความร่วมมือกันให้กว้างขวางมากขึ้น จะช่วยส่งเสริมสัมพันธภาพให้ยิ่งเจริญงอกงาม อีกทั้งจะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดี ความพัฒนาก้าวหน้า และสันติสุขที่ยั่งยืนระหว่างประเทศของเรา และประเทศทั้งหลายในภูมิภาคนี้ และอื่น ๆ ของโลกตลอดไป.
ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน.

(๑) Mr. Kinzang Dorji