พระราชดำรัส ในโอกาสที่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ นำเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำต่างประเทศ เข้าเฝ้า ฯ กราบถวายบังคมลา ในโอกาสที่จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดี ที่ 24 กันยายน 2563

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ.2563

พระราชดำรัส (๑)
ในโอกาสที่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ (๒)
นำเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำต่างประเทศ
เข้าเฝ้า ฯ กราบถวายบังคมลา ในโอกาสที่จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันพฤหัสบดี ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๓
———————–

ขอถือโอกาสนี้ แสดงความปลื้มปีติยินดี และขออำนวยพร ตลอดจนเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน ที่ได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ เป็นผู้แทนประเทศ ผู้แทนรัฐบาล และผู้แทนประชาชน ในประเทศต่าง ๆ ซึ่งมีสัมพันธไมตรีกับประเทศของเรา.
ท่านทั้งหลายได้ผ่านงานในกระทรวงการต่างประเทศมาหลายระดับ หลายปี ได้มีประสพการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ ณ ต่างแดน และในกระทรวงมาก็มากแล้ว ก็คงจะมีความเข้าใจ ว่าหน้าที่ของนักการทูต หน้าที่ของเอกอัครราชทูต คืออะไร. ในปัจจุบันนี้ การคมนาคม การสื่อสาร ตลอดจนเทคโนโลยีต่าง ๆ ก้าวหน้าไปมาก ก็ดูเสมือนว่าโลกจะแคบลง แล้วทุกสิ่งทุกอย่างจะง่ายไปหมด ในการติดต่อหรือทำงานต่าง ๆ. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่หนีความเป็นมนุษย์ หรือความสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นด้วยมนุษย์. ความสัมพันธ์ในมนุษย์ สันถวไมตรี หรือความสัมพันธ์ต่าง ๆ ก็คือเรื่องของมนุษย์. เพราะฉะนั้น การไปปฏิบัติหน้าที่นี่ ก็เชื่อมสัมพันธไมตรี รักษาผลประโยชน์ของประเทศเรา เป็นผู้แทน รักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของประเทศ ดูแลผลประโยชน์ต่าง ๆ ตลอดจนดูแลคนไทยที่ได้อยู่ต่างประเทศ. ความสุขความทุกข์ของเขาต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องของสถานทูต เป็นเรื่องของทูตที่จะต้องปฏิบัติ. เพราะฉะนั้น ทุกอย่างท่านรู้ดีอยู่แล้ว แล้วก็ขอให้คำนึงถึงชื่อเสียงของประเทศ ศักดิ์ศรีของประเทศ ตลอดจนการมีความสัมพันธ์ที่ดีทั้งในด้านบุคคล และในด้านองค์กรต่าง ๆ ที่เราจะต้องติดต่อด้วย.
ก็ขอให้ไปด้วยความโชคดี เพราะท่านเข้าใจดีอยู่แล้วว่าการเป็นข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ การเป็นทูต การเป็นสถานทูตคืออะไร. ขอให้โชคดี.

(๑) เรียบเรียงขึ้นตามที่ได้บันทึกพระสุรเสียงไว้
(๒) นางบุษยา มาทแล็ง