พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันจันทร์ ที่ 26 ตุลาคม 2563

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2563

พระราชดำรัส
ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (๑)
เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันจันทร์ ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๓
——————

ท่านเอกอัครราชทูต

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน แต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย พร้อมด้วยอักษรสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน.
ขอขอบใจท่านประธานาธิบดี ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้า พร้อมทั้งขอแสดงความปรารถนาดี เพื่อความสุขของท่านประธานาธิบดี และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวอิหร่าน.
น่าชื่นชมยิ่ง ที่ท่านได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน อันมีมาอย่างราบรื่นกว่าสี่ศตวรรษ. ในปัจจุบัน โลกมีสถานการณ์ไม่ปรกติหลายอย่าง เช่น สถานการณ์โควิด-๑๙ ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ และระบาดไปในภูมิภาคต่าง ๆ ได้ส่งผลกระทบต่อความสงบสุขของนานาประเทศ และมวลมนุษยชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้. ประเทศทั้งหลายในแต่ละภูมิภาค ควรได้ประสานสัมพันธไมตรี และความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้ใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ในการแก้ไขสถานการณ์ไม่ปรกติทั้งปวง ให้โลกมีความเป็นปรกติสุข. ข้าพเจ้าเชื่อว่า สัมพันธภาพและความร่วมมือในกิจการด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่ระหว่างประเทศของเราทั้งสอง ที่นับวันจะยิ่งกระชับแน่นแฟ้น และขยายขอบเขตกว้างขวางออกไป ไม่เพียงจะเป็นพื้นฐานเกื้อหนุนให้ประเทศและประชาชนของเรา มีความเจริญก้าวหน้า และความอยู่เย็นเป็นสุขเท่านั้น ยังจะเป็นปัจจัยสร้างเสริมสันติสุขอันถาวรของโลกอีกด้วย.
ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน.

(๑) Mr. Seyed Reza Nobakhti