พระราโชวาท สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2561 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันพฤหัสบดี ที่ 3 ตุลาคม 2562

วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2562
พระราโชวาท 


สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ 
สยามบรมราชกุมารี 
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา 
จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๑(๑) 
ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 
วันพฤหัสบดี ที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๒ 



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้า 
มาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ 
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประจำปีนี้. ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและ 
บัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ. 


บัณฑิตทั้งหลายผู้ได้รับปริญญาในวันนี้ ได้ชื่อว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาขั้น 
อุดมศึกษา. คำว่าอุดมศึกษานี้ เป็นชื่อของระดับการศึกษาขั้นสูงสุด เรียงลำดับ 
มาแต่ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา แต่เมื่อพิจารณาให้ละเอียดลึกซึ้งลงไปแล้ว 
จะพบว่ามีความหมายกว้างขวางอยู่มาก. ความหมายอย่างหนึ่ง คือการศึกษา 
อย่างสูงสุด. ความหมายดังกล่าวนี้ ไม่ได้บ่งชี้ถึงระดับการศึกษา แต่หมายถึง 
การศึกษาเรียนรู้ตลอดชีวิต อันเป็นอุดมคติที่ผู้ศึกษาทุกคนควรจะต้องปฏิบัติ
ให้ได้จริง. ส่วนความหมายอีกอย่างหนึ่ง คือการศึกษาเพื่อให้บรรลุถึงประโยชน์
สูงสุด. ความหมายดังกล่าวนี้ เป็นเรื่องของการนำความรู้ที่ได้จากการศึกษา 
ไปปฏิบัติใช้ให้บังเกิดผลเป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและส่วนรวม. หากบัณฑิต 
ทุกคนผู้สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา จะได้ตั้งใจพยายามศึกษาเรียนรู้

(๑) วันพฤหัสบดี ที่ ๓ - วันศุกร์ ที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ 


461

ในเรื่องต่าง ๆ ให้กว้างขวางลึกซึ้งต่อไปโดยไม่หยุดยั้ง และนำความรู้ไปใช้สร้างสรรค์
ประโยชน์ตนประโยชน์ส่วนรวมให้ได้บริบูรณ์แล้ว แต่ละคนก็จะบรรลุถึง 
ความสำเร็จสูงสุดที่แท้จริงของการศึกษา คือการที่ได้พัฒนาตนเองให้มีคุณภาพ 
และมีศักยภาพที่จะสร้างสรรค์ความดีความเจริญให้แก่ตนเองและชาติบ้านเมือง. 


ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิต 
ทุกคนมีกำลังกาย กาลังใจ กำลังปัญญา ที่จะใฝ่หาความรู้และสร้างสรรค์ความสำเร็จ 
อันยั่งยืนแท้จริง ทั้งขอให้ทุกท่านที่มาประชุมพร้อมกัน ณ ที่นี้ มีความสุขสวัสดี
โดยทั่วกัน. 


462