พระราโชวาท สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๐ ณ อาคารนวมภูมินทร์ วชิราวุธวิทยาลัย วันศุกร์ ที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๒ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้า มาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ประจำปีนี้. ขอแสดงความชื่นชมต่อบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ. ข้าพเจ้าได้พูดกับบัณฑิตมหาวิทยาลัยแห่งนี้เมื่อปีที่แล้วว่า คุณสมบัติข้อหนึ่ง ที่ช่วยรักษาส่งเสริมบุคคลให้มีความสุขและความเจริญมั่นคง ก็คือสติความระลึกรู้ เพราะสติจะคอยเตือนให้คนเราหยุดคิดพิจารณาว่า สิ่งที่จะทำ คำที่จะพูด เรื่องที่จะคิด จะก่อให้เกิดผลเป็นความสุขความเจริญหรือความทุกข์ความเสื่อม. ในปีนี้ ใคร่จะ กล่าวเพิ่มเติมถึงความสัมพันธ์เกี่ยวข้องของสติ กับความรู้ในหลักวิชา. ความรู้ ทั้งปวงนั้น เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนำไปใช้ประกอบกิจการงาน แต่การจะนำความรู้ ไปใช้ในทางที่ดีที่เจริญ หรือทางที่ชั่วที่เสื่อม ย่อมขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ว่าจะมีสติความยั้งคิด หรือไม่. สติจึงเป็นเครื่องกำกับประคับประคองการใช้ความรู้ คือเป็นสิ่งที่เตือนให้ คนเราหยุดคิดพิจารณา ว่างานที่จะทำ และวิธีการที่จะนำความรู้ไปใช้ทำงานนั้น เป็นไป ในทางสุจริตหรือทุจริต ก่อให้เกิดประโยชน์หรือเป็นโทษเสียหายแก่ตนเองและส่วนรวม. หากบัณฑิตผู้มีความรู้สูง จะได้มีสติเตือนตนทุกครั้งที่จะใช้ความรู้ ก็เป็นอันหวังได้ว่า ชาติบ้านเมืองของเราจะมีแต่ความเจริญมั่นคงเป็นแน่นอน. 79
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตใหม่ทุกคนประสบ ความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน ทั้งขอให้ทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ มีความสุข ความเจริญโดยทั่วกัน. 80