พระราโชวาท สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประจำปีการศึกษา 2563 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จังหวัดสงขลา วันอังคาร ที่ 26 กรกฎาคม 2565

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2565

พระราโชวาท
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓
ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี จังหวัดสงขลา
วันอังคาร ที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕
————————–

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๓ ในวันนี้. ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ.
ผู้สำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิต ย่อมได้รับความเชื่อถือ ว่าเป็นผู้มีวิชาความรู้ มีสติปัญญาฉลาดสามารถ ตลอดจนมีความคิดและความประพฤติปฏิบัติดี เพราะการศึกษานั้นเป็นปัจจัยสำคัญ ในการสร้างและพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติปฏิบัติ และคุณธรรมของบุคคล. ด้วยเหตุนี้ แต่ละคนจึงต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ แล้วนำความรู้ไปใช้ปฏิบัติงานให้สำเร็จผลอย่างมีประสิทธิภาพ. ในการทำงานนั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้ที่สำคัญ ๒ อย่าง. อย่างหนึ่งคือความรู้ในหลักวิชา อันได้แก่หลักการและทฤษฎีต่าง ๆ ตามสาขาหรือวิชาชีพที่แต่ละคนได้ศึกษามา. อีกอย่างหนึ่งคือความรู้จากประสบการณ์ อันได้แก่ความจัดเจนชำนาญที่ได้จากการเรียนรู้ สังเกต จดจำ และฝึกฝนปฏิบัติ. หากบัณฑิตจะได้ขวนขวายศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ให้สมบูรณ์ครบถ้วนดังที่กล่าวนี้ แล้วนำความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนคุณสมบัติทั้งปวงที่มีอยู่ ไปใช้สร้างสรรค์ประโยชน์และความดีความเจริญที่แท้ ให้แก่ตน แก่งาน และแก่ชาติบ้านเมืองแล้ว แต่ละคนก็จะประพฤติตนปฏิบัติงานได้สมฐานะของบัณฑิต ผู้ได้รับความยกย่องเชื่อถืออย่างแท้จริง.
ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคน และทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ มีความก้าวหน้ารุ่งเรืองในชีวิตและกิจการงานจงทั่วกัน.