วันพฤหัสบดี ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2565

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2565

ข่าวในพระราชสานัก
พระบรมมหาราชวัง
วันพฤหัสบดี ที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
วันนี้ เวลา ๑๗.๕๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดาเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี
สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จพระราชดาเนินถึง คณะกรรมการโครงการอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล สมเด็จพระอริยวงศาคติญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานสงฆ์ ถวายศีล เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดาเนินไปยังมณฑลพิธีบวงสรวง ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน และธูปที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย แล้วทรงจุดธูปหางปักที่เครื่องสังเวย โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ พนักงานภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ชาวพนักงานประโคมแตร ดุริยางค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน ถวายเครื่องราชสักการะ ทรงโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย ทรงคม จากนั้น เสด็จพระราชดาเนินไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา กองทหารเกียรติยศ สาหรับพระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ ถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ชาวพนักงานประโคมกระทั่ง แตร มโหระทึก เสร็จแล้ว เสด็จขึ้นลานพระบรม ราชานุสาวรีย์ ฯ ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นคาจารึกที่ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ ทรงวางพุ่มดอกไม้ และพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ เสร็จแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงวางพุ่มดอกไม้ และพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ทรงกราบ จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดาเนินไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดาเนินไปยังพระบรมมหาราชวัง
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เกิดขึ้นจากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และน้อมราลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยทศพิธราชธรรม ในการบาบัดทุกข์บารุงสุขแก่ราษฎรตลอดระยะเวลา ๗๐ ปีแห่งการครองสิริราชสมบัติ พระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ ตั้งอยู่ศูนย์กลางของอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ เปรียบดั่งศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า
/ทั้งนี้ …
– ๒ –
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดาเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ และเสด็จพระราชดาเนินไปทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระบรมรูป ฯ ส่วนพระเศียร ณ ชานหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ กับทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดาเนินแทนพระองค์ ไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมรูป ฯ เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ เมื่อวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๕
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประดิษฐานเหนือผังแปดเหลี่ยม ตามอย่างคติของพระที่นั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาสน์ อันเป็นสัญลักษณ์เบื้องแรกแห่งการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สื่อความหมายว่า ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระบรมเดชานุภาพ มีผู้แทนของปวงชนในแผ่นดินทั่วทั้งแปดทิศต่างน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแผ่นดิน ด้วยความจงรักภักดี ฐานชั้นบนของพระบรมราชานุสาวรีย์ประดิษฐานพระบรมรูปพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หันพระพักตร์ไปทางพระตาหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต หล่อด้วยโลหะสาริด ความสูง ๗.๗๐ เมตร หรือขนาด ๔ เท่าครึ่งของพระองค์จริง ฉลองพระองค์เครื่องแบบทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และประดิษฐานอักษรพระปรมาภิไธย ภ.ป.ร. ที่ด้านหน้าของแท่น พร้อมประดับแผ่นคาจารึกหล่อด้วยโลหะสาริด ทั้ง ๘ ทิศ ที่แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ ซึ่งได้จารึกพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รวมทั้งพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จารึกเป็นหัวข้อต่าง ๆ ประกอบด้วย พระราชประวัติ พระราชาผู้ทรงธรรม กลางใจราษฎร์ ปราชญ์ของแผ่นดิน พระภูมินทร์บริบาล นวมินทร์โลกกล่าวขาน สืบสาน รักษา และต่อยอด และบรมราชสดุดี
ฐานชั้นที่ ๒ มีความสูง ๑.๕๐ เมตร เป็นฐานหินอ่อนสี่เหลี่ยมย่อมุม มีขอบกั้นเป็นรั้ว เปิดทางขึ้นลงสองด้าน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ฐานชั้นที่ ๑ มีความสูง ๑.๒๐ เมตร เป็นฐานหินอ่อน รูปทรงวงรี มีขอบกั้น เป็นรั้ว เปิดทางขึ้นลงสองด้าน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมอ่างน้าพุหินอ่อนทรงกลม ประดับไว้ทั้งสี่มุม รวมความสูงของพระบรมราชานุสาวรีย์ ฯ ๑๙.๔๕ เมตร แสดงความหมายว่า ๑๙ คือ ๑ + ๙ = ๑๐ หมายถึง รัชกาลที่ ๑๐ และ ๐.๔๕ คือ ๔ + ๕ = ๙ หมายถึง รัชกาลที่ ๙
อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ สร้างขึ้นบนที่ดินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน โดยมีการออกแบบภูมิสถาปัตย์ตามแบบอย่างโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดาริ เพื่อถวายพระเกียรติยศ แสดงให้เห็นถึงความผูกพัน และความจงรักภักดีที่ประชาชนมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งจะเป็นแหล่งเรียนรู้ตามแนวพระราชดาริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผ่านองค์ความรู้ เรื่อง “ป่าและน้า” ซึ่งเป็นแนวคิดหลักในการออกแบบสวน และเป็นสถานที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ ที่ได้พระราชทานไว้ สะท้อนให้เห็นถึงความสาคัญของมนุษย์กับธรรมชาติ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ทั้งยังเป็นแก้มลิงเก็บน้าในช่วงฤดูฝน เป็นสถานที่ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้ และทรงอุทิศให้เป็นสวนสาธารณะแห่งใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนอีกด้วย
/เวลา …
– ๓ –
เวลา ๑๘.๓๓ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดาเนินไปในการพระราชพิธีทรงบาเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พุทธศักราช ๒๕๖๕ ณ พระที่นั่ง อมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี
สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย
ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละออง
ธุลีพระบาทรับเสด็จ
เมื่อเสด็จพระราชดาเนินถึงพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้นบูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ พระพุทธมหาราช ฉ ปริวัตน์ พระพุทธรูปประจาพระชนมวารของพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระพุทธรูปประจา พระชนมวารของพระอัฐิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งประดิษฐานในพระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยาราชาวดี และทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย กราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระอัฐิสมเด็จ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งประดิษฐานที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองลงยารอง และทรงจุด ธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท จากนั้น พระสงฆ์ ๘๙ รูป สวดพระพุทธมนต์ จบแล้ว พระเทพปฏิภาณกวี วัดประยุรวงศาวาส ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปปัก ที่จงกลธรรมาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม เสร็จแล้ว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยที่หน้าพระแท่น พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สาหรับพระบรมอัฐิและพระอัฐิ ทรงธรรม ทรงศีล พระเทพปฏิภาณกวี ถวายศีล และถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง สัจจกถา จบแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ จากนั้น ทรงทอดผ้าไตร ๑๘ ไตร (เที่ยวแรก) พระสงฆ์ที่สวดพระพุทธมนต์และถวายพระธรรมเทศนา สดับปกรณ์ พระบรมอัฐิและพระอัฐิ ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทอดผ้าไตรอีกเที่ยวละ ๑๘ รูป พระสงฆ์สดับปกรณ์ ทรงปฏิบัติเช่นนี้จนครบ ๔ เที่ยว จากนั้น ทรงกราบ พระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ ๙ พระพุทธมหาราช ฉ ปริวัตน์ พระพุทธรูป ประจาพระชนมวารของพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระพุทธรูปประจาพระชนมวารของ พระอัฐิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่หน้าพระที่นั่ง
/บุษบก …
– ๔ –
บุษบกมาลา เสร็จแล้ว ทรงกราบถวายบังคมพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร พระอัฐิสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่หน้าพระแท่น พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดาเนินกลับ
เวลา ๐๘.๕๒ น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จออก ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา บรมราชินี คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ทรงบาเพ็ญพระราชกุศล พระราชอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต
ในวันเดียวกันนี้ เวลา ๑๓.๑๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สาเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจาปีการศึกษา ๒๕๖๔ ณ อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร เป็นวันที่ ๔
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระโอวาท ความว่า ได้พูดกับบัณฑิตในที่ประชุมนี้ว่า ปัจจัยที่ช่วยให้แต่ละคน
บรรลุถึงความสาเร็จ ประกอบด้วย ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลอื่น
การพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงของโลก และสาคัญที่สุด คือคุณธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งความกตัญญู
ตระหนักรู้ถึงคุณความดีของผู้อื่น แล้วตั้งใจพยายามตอบแทนคุณความดีทั้งนั้น ด้วยการประพฤติตน
ปฏิบัติงานให้เป็นไปในทางที่ดีที่เจริญ
ในวันนี้ ใคร่จะกล่าวเพิ่มเติมแก่บัณฑิตทั้งหลายว่า การพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญมั่นคง
เป็นสิ่งที่ประชาชนทุกคนควรกระทาอยู่เป็นนิจ บัณฑิตในฐานะที่เป็นผู้สาเร็จการศึกษาในระดับสูง
จึงควรจะได้นาความรู้ความชานาญในสาขาวิชาของตน มาประยุกต์ใช้ให้ประสานส่งเสริมซึ่งกันและกัน
เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาบ้านเมืองในด้านต่าง ๆ พร้อมกันนั้น แต่ละคนควรหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ฝึกฝนความชานาญในการปฏิบัติให้ยิ่งก้าวหน้าขึ้น และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทุกคนทุกฝ่ายอยู่เสมอ จะได้สามารถทางานร่วมกันได้อย่างราบรื่น มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด หากบัณฑิตทั้งหลายร่วมมือร่วมงานกัน ด้วยความสมัครสมานสามัคคี ตลอดจนร่วมแรงร่วมใจกับทุกคนทุกฝ่ายในสังคม โดยเต็มกาลังความสามารถแล้ว เชื่อได้ว่า ชาติบ้านเมืองของเราจะเจริญก้าวหน้า และดารงมั่นคงอยู่ได้อย่างร่มเย็นเป็นผาสุก