วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันพุธ ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๑

วันนี้ เวลา ๑๓.๕๒ น. พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เสด็จไปทรงเปิดงาน
“ทุ่งทานตะวัน ณ บ้านระไซร์ ครั้งที่ ๓” ณ ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
อนึ่ง เมื่อวันอังคาร ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เวลา ๐๘.๑๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง
จังหวัดเชียงราย ไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว พระตำหนักดอยตุง เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง
เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
โดยมูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือ
เด็กพิการทางการมองเห็นในแถบภาคเหนือตอนบน มีผู้พิการทางการมองเห็นจำนวนมากเป็นอันดับ ๒
ของประเทศ ในขณะที่มีโรงเรียนสอนคนตาบอดเพียง ๓ แห่ง โดยมูลนิธิ ฯ ได้จัดทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศล โครงการ “ปันรักให้เด็กตาบอดภาคเหนือตอนบน” เพื่อระดมทุนในการก่อสร้าง และได้รับประทานชื่อว่า
“อาคารสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” โรงเรียนแห่งนี้เปิดการเรียนการสอน
เมื่อปี ๒๕๕๙ มีนักเรียนในระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ปัจจุบันมีนักเรียนจำนวน ๒๒ คน
สำหรับการเรียนการสอน เริ่มจากการกระตุ้นประสาทสัมผัสและการเคลื่อนไหวของเด็ก เพื่อให้กล้ามเนื้อ
มัดเล็กแข็งแรง จากนั้นจะฝึกพัฒนา ๔ ด้าน คือ ร่างกาย อารมณ์และจิตใจ สังคม และสติปัญญา โดยใช้
สื่อนวัตกรรมต่าง ๆ นอกจากจะให้ความรู้ อบรมคุณธรรมจริยธรรมแล้ว ยังน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
มาปรับใช้ เพื่อให้นักเรียนมีจิตใจเข้มแข็ง สามารถช่วยเหลือตนเอง และดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
เวลา ๑๑.๑๙ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเบ็ตตี้ดูเมน
บ้านปางพริก อำเภอปง จังหวัดพะเยา ทรงติดตามการดำเนินโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระศรี
นครินทราบรมราชชนนี มีพระราชดำริให้จัดสร้างโรงเรียนแห่งนี้ขึ้นเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของท่านผู้หญิง
เบ็ตตี้ ดูเมน พระสหาย ที่ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล เมื่อครั้งตามเสด็จไปทรงเยี่ยมชาวเขาและประชาชนในถิ่นทุรกันดารพื้นที่ภาคเหนือด้วย ทรงเห็นว่าเยาวชนและเด็กจำนวนมากขาดโอกาส
ทางการศึกษา ปัจจุบันได้มีการเปิดการเรียนสอนในระดับชั้นอนุบาล ๑ ถึงประถมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียน
จำนวน ๑๑๐ คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า ด้านผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาปีการศึกษา ๒๕๕๙ ผลการสอบโอเน็ตระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยระดับประเทศ ในรายวิชาภาษาไทย และวิทยาศาสตร์
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักเรียนในพระราชานุเคราะห์ เฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายรายงานผลการศึกษา จากนั้น ทอดพระเนตร
การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช ซึ่งมหาวิทยาลัยพะเยา เข้ามาให้ความรู้แก่นักเรียน เพื่ออนุรักษ์พันธุกรรมพืช
รวมถึงการสาธิตการเรียนการสอนวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นแบบ
การแก้ปัญหาเด็กอ่านหนังสือไม่ออกเขียนหนังสือไม่ได้ และทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์และหน่วยทันตกรรมพระราชทาน
ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มาทำการรักษา โดยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบกล้ามเนื้อและกระดูกจำนวน ๑๘๑ คน ซึ่งทรงรับผู้ป่วยเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ ๓ คน
และทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ และทอดพระเนตรโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน
/มีการปลูก…..

– ๒ –

มีการปลูกผักสวนครัว ปลูกผักตามฤดูกาล เลี้ยงไก่ไข่ สุกร และเลี้ยงปลาในบ่อดิน ทำให้มีผลผลิตเพียงพอประกอบอาหารกลางวัน และยังสามารถนำกลับไปประกอบอาหารที่บ้านได้อีกด้วย อีกทั้งยังเป็นศูนย์การเรียนรู้
ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศึกษามีหน่วยงานจากพื้นที่ต่าง ๆ เข้ามาศึกษาดูงาน ส่วนโครงการ
ฝึกอาชีพ อาทิ ฝึกการทำไม้กวาดดอกหญ้าแก่นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ – ๖ เพื่อสร้างรายได้เสริม
ด้านการแปรรูปอาหาร สำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา มาถ่ายทอดความรู้การทำน้ำเต้าหู้ถั่วมะแฮะ ขนมหม้อแกง
ถั่วมะแฮะ และกล้วยฉาบ เป็นผลผลิตที่ปลูกภายในโรงเรียน และนำมาจำหน่ายในสหกรณ์โรงเรียน ในการนี้ ทอดพระเนตรการสาธิตการทำชาเจียวกู่หลาน เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่ชาวไทยภูเขาเผ่าเย้า นิยมนำมาชงเป็นชา สามารถปลูกในโรงเรียน และนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ มีสรรพคุณบำรุงร่างกาย ลดความดันโลหิต
ลดระดับไขมันในเลือดและลดคอเรสเตอรอล
เวลา ๑๕.๐๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน
โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่าอากาศยาน
แห่งประเทศไทย เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาส
ทรงเจริญพระชนมายุ ๔ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๔๖ อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ราษฎรในหมู่บ้านประกอบด้วยชาวไทยใหญ่ จีน อาข่า ลาหู่ และลีซู ได้เปิดการเรียนสอนเมื่อปี ๒๕๔๖ มีนักเรียนในระดับ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ ปัจจุบันมีนักเรียน ๑๓๗ คน ครูตำรวนตระเวนชายแดน ๑๓ นาย และครูพลเรือน
๓ คน โดยได้ดำเนินโครงการตามพระราชดำริ ฯ และประสบผลสำเร็จ มีนักเรียนที่จบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
ได้เข้ารับศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทุกคน โดยปีการศึกษา ๒๕๖๐ ได้มีการส่งครูไปอบรม
ที่โรงเรียนเม็งรายมหาราช ใน ๔ กลุ่มสาระวิชา และเพิ่มครูอัตราจ้างพระราชทาน ๒ คน ในสาขาวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ส่วนครูภาษาอังกฤษได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิพุทธรักษา ส่งครูมาสอน ๑ คน
ในการนี้ ทอดพระเนตรการเรียนการสอนห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ และภาษาจีน ซึ่งเปิดการเรียนการสอนนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๓ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะด้านภาษา เมื่อจบการศึกษา
ไปแล้วบางส่วนสามารถเป็นมัคคุเทศก์ท้องถิ่นได้ จากนั้น ทอดพระเนตรกิจกรรมส่งเสริมอาชีพการทำไม้กวาด
ดอกหญ้าตามภูมิปัญญาท้องถิ่น การประกอบอาหารจากพืชผักและผลไม้ ที่ปลูกได้ในโรงเรียน อาทิ กล้วยฉาบ
ข้าวเกรียบฟักทอง โดนัทกล้วย และแหนมเห็ด โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน สามารถผลิตเนื้อสัตว์
ได้เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนถั่วเมล็ดแห้ง ผักและผลไม้ ผลิตได้ร้อยละ ๘๐ จากนั้น ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ไปตรวจรักษาราษฎร กับทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้า
ทูลละอองพระบาทรับเสด็จ
เวลา ๑๖.๓๙ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน
โดยรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานโรงเรียนบ้านนาโต่ (วปรอ. ๓๔๔ อุปถัมภ์) อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชาวไทยภูเขาเผ่าอาข่า ลาหู่ ไทยใหญ่ ลีซู จีนฮ่อ
และเมียนมา เนื่องจากโรงเรียนอยู่ห่างจากจังหวัดเมืองสาดและเมืองตูม ของประเทศเมียนมา เพียง ๕ กิโลเมตร
ส่วนใหญ่ผู้ปกครองมีฐานะยากจน ไม่มีความรู้ด้านโภชนาการ ทำให้นักเรียนขาดสารอาหาร และนักเรียน
ในระดับอนุบาลถึงประถมศึกษาตอนต้น มีปัญหาการสื่อสารเนื่องจากใช้ภาษาถิ่นทำให้การเรียนล่าช้า
/โครงการ…..

– ๓ –

โครงการพัฒนาดอยตุง จึงได้สนับสนุนเงินทุนในการพัฒนาการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ ๓ รวมทั้งสิ้น ๗ ห้องเรียน และส่งเสริมการพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง โดยส่งครูไปฝึกอบรมการสอนแบบการยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง ส่วนในช่วงปิดเทอมมีการสนับสนุนเงินค่าจ้างให้แก่ครูสอนเสริมแก่เด็กที่พัฒนาการเรียนล่าช้า ส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ครูใช้การสอนแบบเขียนบนกระดานดำน้อยลง
แต่สอนให้เด็กปฏิบัติและคิดด้วยตนเองมากขึ้น ส่งผลให้นักเรียนเรียนรู้เร็วขึ้นครูใช้สื่อการสอนที่โครงการพัฒนา
ดอยตุง สนับสนุนมากกว่าสอนในตำราเรียน ช่วยให้นักเรียนอ่านหนังสือออกและเขียนหนังสือได้คล่องขึ้น
โรงเรียนได้สนองพระราชดำริโครงการฝึกอาชีพ เพื่อให้ผู้ปกครองและนักเรียนมีรายได้เสริม ปัจจุบันนักเรียน
มีรายได้ที่ทำร่วมกับผู้ปกครองเพื่อนำไปขายส่งตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ และขายให้กับโรงเรียน โครงการส่งเสริมสหกรณ์ นักเรียนสามารถบริหารจัดการได้ด้วยตนเอง มีครูเป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษา โดยครูได้พานักเรียน
เข้าร่วมกิจกรรมที่ไร่สิงห์ปาร์ค อบรมทำบัญชีต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียง วิธีทำบัญชีสำหรับกิจกรรมอาหารกลางวัน บัญชีสำหรับผลิตผลทางการเกษตร และบัญชีครัวเรือน ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ที่บ้านได้ ส่วนนักเรียนที่สนใจ
ในวิชาคอมพิวเตอร์และเรียนรู้ได้เร็ว โรงเรียนได้รับการสนับสนุนอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงจากโครงการโรงเรียนประชารัฐ ปัจจุบันโรงเรียนมีนักเรียน ๒๖๔ คน เป็นนักเรียนที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ ๒๘ คน เนื่องจากการมีหลายชนเผ่าทำให้นักเรียนมีวัฒนธรรมและความคิดที่ต่างกัน ครูจึงจัดกิจกรรมโครงการคุณธรรม
เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ให้นักเรียนตระหนักถึงการอยู่ร่วมกันด้วยความสามัคคี นอกจากนี้ ในหมู่บ้าน
ยังมีโรงเรียนสอนภาษาจีน ซึ่งเปิดการเรียนการสอนในระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ชื่อโรงเรียน
จวิ่งฉินวิทยา เมื่อเรียนจบแล้วมักจะไปประกอบอาชีพล่ามและมัคคุเทศก์ ที่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย
และไต้หวัน เนื่องจากมีรายได้ดี สมควรแก่เวลา จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับที่ประทับแรม ณ พระตำหนักดอยตุงอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๑๘.๑๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออก ณ ท้องพระโรง พระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย พระราชทานพระราชวโรกาส
ให้คณะบุคคลต่าง ๆ เฝ้าทูลละอองพระบาท ตามลำดับดังนี้
– รองศาสตราจารย์วันชัย ศิริชนะ นายกสมาคมนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เชียงราย นำคณะกรรมการสมาคม ฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการแข่งขันกอล์ฟการกุศล ครั้งที่ ๒๔ ประจำปี ๒๕๖๐ โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
– นางพรรณราย จันทยศ ประธานกลุ่มพลังเพื่อพ่อของแผ่นดิน จังหวัดเชียงราย นำคณะกรรมการกลุ่มรวมพลังเพื่อพ่อของแผ่นดิน เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน
โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย