วันพุธ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2565

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ.2565

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันพุธ ที่ ๑๓ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕

วันนี้ เวลา ๑๗.๔๙ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในการพระราชพิธี
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันอาสาฬหบูชา และทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระบรมรูป
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ส่วนพระเศียร)
ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร
มหาวัชรราชธิดา โดยเสด็จในการนี้ด้วย
เมื่อเสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนพรรษาในตู้ด้านพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และด้านพระพุทธเลิศหล้านภาไลย จากนั้น ทรงถวายพุ่มเทียน ธูปเทียนแพ ต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน
และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชา พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์
พระพุทธเลิศหล้านภาไลย เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่
หน้าธรรมาสน์ศิลา ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ
ทรงกราบ จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลอากาศโท ภักดี แสง-ชูโต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียนชนวน ทรงจุดเทียนชนวนจากโคมไฟฟ้า แล้วพระราชทานแก่รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เพื่อเชิญไปรักษาไว้สำหรับถวายเจ้าอาวาสพระอารามหลวงต่าง ๆ นำไปจุดเทียนพรรษาที่ได้ทรงพระราชอุทิศไว้แล้ว ต่อจากนั้น ทรงประเคนพุ่มเทียนแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระราชาคณะ
พระราชาคณะ พระเปรียญธรรม ๙ ประโยค และพระภิกษุนาคหลวง จำนวน ๒๐ รูป เสร็จแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชวงศ์ องคมนตรี และข้าราชการ
ชั้นผู้ใหญ่ ทรงประเคนและประเคนพุ่มเทียน จนครบ ๑๙๕ รูป พระสงฆ์ที่เจริญชัยมงคลคาถาพิธีเททอง
หล่อพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ส่วนพระเศียร)
ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ ประธานสงฆ์ถวายศีล จบแล้ว เสด็จออกจากพระอุโบสถ ไปยังมณฑลพิธีบวงสรวงสังเวย
เพื่อทรงเททองหล่อพระบรมรูป ฯ ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน และธูปที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย แล้วทรงจุดธูปหางปักที่เครื่องบวงสรวงสังเวย โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ ชาวพนักงานประโคมแตร ดุริยางค์ พนักงานภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ ทรงตั้งพระราชสัตยาธิษฐาน ขอถวายเครื่องสักการะ ทรงโปรยข้าวตอก ดอกไม้ ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวงสังเวย ทรงคม เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังมณฑลพิธีเททอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงรับแผ่นทอง นาก เงิน และทรงวางลงในช้อน จากนั้น ทรงเทแผ่นทอง นาก เงิน ลงในเบ้า ทรงถือสายสูตรเททองหล่อพระบรมรูป ฯ พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา โหรหลวงลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าสังข์ ชาวพนักงานประโคมแตร ดุริยางค์ พนักงานภูษามาลาแกว่งบัณเฑาะว์ แล้วทรงเททองหล่อ
พระบรมรูป ฯ พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ หลั่งน้ำเทพมนตร์ วางใบมะตูม
และเจิมหุ่นพระบรมรูป ฯ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ถวายพระสงฆ์
ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปทรงกราบที่หน้า
เครื่องนมัสการ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
/เวลา …

– ๒ –

เวลา ๑๐.๒๖ น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี
กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ไปทรงปล่อยโค นก และปลา เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ณ ท่าวาสุกรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
เวลา ๑๐.๔๖ น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ
เสด็จออกพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร
มหาวัชรราชธิดา ณ วังเทเวศร์ ทรงรับดอกไม้และของขวัญพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
และพระบรมวงศานุวงศ์ ต่อจากนั้น ทรงบำเพ็ญพระกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ในวันเดียวกันนี้ เวลา ๑๘.๒๘ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า
โปรดกระหม่อมให้ หม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคล เสด็จแทนพระองค์ ไปทรงจุดเทียนพรรษาที่ทรงพระราชอุทิศถวาย
เป็นพุทธบูชา ณ หอพระคันธารราษฎร์ หอพระราชพงศานุสรณ์ หอพระราชกรมานุสรณ์ พระศรีรัตนเจดีย์
หอศาสตราคม พระบรมมหาราชวัง และพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
อนึ่ง เมื่อวันอังคาร ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๒๖ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน
รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม
ไปทรงนำคณะข้าราชการ และนักเรียนนายร้อย ชั้นปีที่ ๔ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ยุโรปไปทัศนศึกษา ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขตบางรัก สถาบันเกอเธ่ และหอการค้าเยอรมนี – ไทย เขตสาทร กรุงเทพมหานคร
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึงพระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้น ทรงรับฟังการบรรยายสรุปความเป็นมาของพระราชวังเดิม ซึ่งสร้างขึ้นหลังจากที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกอบกู้เอกราช และทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี เมื่อปี ๒๓๑๑ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือแห่งแรก ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ และเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพเรือจนถึงปัจจุบัน รวมทั้ง
ได้รับการบูรณะใหม่ในปี ๒๕๓๘ โดยมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร
และสิ่งปลูกสร้างให้กลับมางดงามดังเดิม เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญต่อไป เสร็จแล้ว
ทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรป้อมวิไชยประสิทธิ์ ปัจจุบันใช้เป็นที่ยิงสลุตในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ
และมีการติดตั้งเสาธง เพื่อชักธงราชนาวี และธงผู้บัญชาการทหารเรือ
เวลา ๑๐.๐๗ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาสนวิหารอัสสัมชัญ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ทรงรับฟังการบรรยายประวัติศาสตร์
พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกในไทย และอาสนวิหารอัสสัมชัญ เหตุการณ์สำคัญในการเผยแผ่คริสต์ศาสนา
นับแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างชาวไทยกับคริสต์ศาสนิกชน

/โอกาสนี้ …

– ๓ –

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรสิ่งของสำคัญต่าง ๆ ภายในอาสนวิหารอัสสัมชัญ อาทิ เชิงเทียนเครื่องสังเค็ตในงาน
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หนังสือคำสอนคริสตัง ภาคต้น ซึ่งพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อปี ๒๓๓๙ และพจนานุกรมฝรั่งเศส – สยาม ซึ่งระบุว่า
เขียนขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นต้น
เวลา ๑๒.๔๙ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถาบันเกอเธ่ ซึ่งเป็นสถาบันด้านวัฒนธรรมของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ที่มีสาขา
อยู่ทั่วโลก โดยในประเทศไทย ได้ตั้งสถาบันขึ้นเมื่อปี ๒๕๐๓ เป็นสถาบันเกอเธ่แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ที่นั้น นายเกออร์ก ชมิดท์ (Georg Schmidt) เอกอัครราชทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ในการนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการภาพ “ร่องรอยเยอรมันในกรุงเทพ ฯ ร่องรอย
ประเทศไทยในเบอร์ลิน” ที่สะท้อนความเชื่อมโยงของวิถีชีวิตชาวไทยในเยอรมนี และสถาปัตยกรรมเยอรมันในไทย และทอดพระเนตรการเรียนการสอนภาษาเยอรมัน และทรงรับฟังการบรรยายสรุป หัวข้อ “ประวัติและกิจกรรมของสถาบันเกอเธ่ในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในต่างประเทศ”
ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๑๓.๔๗ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ทำการหอการค้าเยอรมนี – ไทย ทรงรับฟังบรรยายหัวข้อ “๑๖๐ ปี ความสัมพันธ์เยอรมนี – ไทย” เสร็จแล้ว ทอดพระเนตรกิจกรรมการดำเนินงานของหอการค้าเยอรมนี – ไทย
ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร มีภารกิจสนับสนุนข้อมูลแก่ผู้ประกอบการและนักลงทุนชาวเยอรมนีในไทย
และนักลงทุนไทยในเยอรมนี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมด้านการค้า การลงทุนอุตสาหกรรม และบริการต่าง ๆ อีกด้วย ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังชั้น ๑๙ ของอาคารเอ ไอ เอ สาทร ทาวเวอร์ ทอดพระเนตรนิทรรศการประวัติความเป็นมาของบริษัท เมอร์เซเดส – เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด
ซึ่งรถเมอร์เซเดสคันแรกในประเทศไทย สั่งซื้อโดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี ๒๔๔๗ พระราชทานชื่อว่า “แก้วจักรพรรดิ” แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังชั้น ๑๗ ของอาคารเอ ไอ เอ สาทร
ทาวเวอร์ ทรงรับฟังการบรรยาย “ประวัติและนวัตกรรมของบริษัทโคเวสโตร (ประเทศไทย) จำกัด”
ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบด้วย ๓ หน่วยธุรกิจ คือ สีเคลือบ กาว และผลิตภัณฑ์เฉพาะการใช้งานพิเศษ โพลีคาร์บอเนต และโพลียูรีเทน มีโรงงานที่มีระบบการผลิตที่ทันสมัยอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องอเนกประสงค์ ชั้น ๑๔ ของอาคารเอ ไอ เอ สาทร ทาวเวอร์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ ๔ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งศึกษาวิชาเลือกเสรีประวัติศาสตร์ยุโรป กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในโอกาสที่ทรงนำนักเรียน ฯ มาทัศนศึกษา
ในโอกาสนี้ พระราชทานพระราชดำรัสแก่นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าให้นำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้
ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเอง และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้วย สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง
เสด็จพระราชดำเนินกลับวังสระปทุม