วันพุธ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565

 

 

ข่าวในพระราชสำนัก

พระบรมมหาราชวัง

วันพุธ ที่ ๑๖ กุมภาพันธ์  พุทธศักราช  ๒๕๖๕

 

วันนี้  เวลา  ๑๗.๔๕  น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในการทรงบำเพ็ญ
พระราชกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง

ในโอกาสนี้  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา  และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย

เมื่อเสด็จเข้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนรุ่ง

ทรงรับกระทงดอกไม้จากเจ้าพนักงานพระราชพิธีวางบนพานหน้าฐานชุกชี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ
ท้ายที่นั่ง แล้วทรงจุดเทียนห่วงบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร  พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ และพระพุทธ
เลิศหล้านภาไลย  ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองใหญ่ที่หน้าธรรมาสน์ศิลา  ทรงกราบ  สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศที่หน้าธรรมาสน์ศิลา  ทรงกราบ  จากนั้น  พลอากาศโท
ภักดี  แสง-ชูโต  รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเทียนชนวน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหยิบเทียนชนวนจุดไฟที่โคมไฟฟ้า  แล้วพระราชทาน
เทียนชนวนที่ทรงจุดให้ พลอากาศโท ภักดี  แสง-ชูโต รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองพระราชพิธี  เชิญไปถวาย
เจ้าอาวาสพระอารามหลวง  จุดเทียนรุ่งที่ทรงพระราชอุทิศพระราชทานไปจุดเป็นพุทธบูชา ๕ พระอาราม
พระสงฆ์ ๓๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ เสร็จแล้ว ทรงโปรยดอกมะลิที่ธรรมาสน์ศิลา  และทรงจุดเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่ธรรมาสน์ศิลา  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม  ทรงศีล  พระเทพวชิรมุนี
วัดบวรนิเวศวิหาร ถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา เรื่อง โอวาทปาฏิโมกข์  จบแล้ว  ทรงหลั่งทักษิโณทก
แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์  และทรงยืนประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ที่เจริญพระพุทธมนต์  พระสงฆ์ถวายอดิเรก  จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ  ทรงรับการถวายความเคารพ
ของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ  ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

เวลา ๐๙.๑๕  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณ
วรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพะเยา ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒
ณ หอประชุมพญางำเมือง อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

พระราชทานพระราโชวาท ความว่า บัณฑิตทั้งหลายที่มาประชุมอยู่  ณ  ที่นี้  นับว่าเป็นผู้มีศักยภาพทางวิชาการ    โดยมีปริญญาบัตรเป็นเครื่องรับรองความรู้ความสามารถ แต่ในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ซึ่งบัณฑิต

 

/ จะต้องกระทำ…

 

 

 

 

– ๒ –

 

จะต้องกระทำต่อไปนั้น จะอาศัยเพียงวิชาการที่ได้รับมาจากมหาวิทยาลัย ยังไม่เพียงพอ  เพราะในวันข้างหน้า
แต่ละคนอาจจะได้ประสบพบเจอเหตุการณ์ต่าง ๆ  ในสถานการณ์หรือสังคมที่แตกต่างหลากหลาย  ทุกคนจึง

จำเป็นต้องแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความรอบรู้และประสบการณ์ที่กว้างขวาง ทั้งต้องฝึกฝนอบรมจิตใจให้ประณีต เข้มแข็ง  และมั่นคงในคุณธรรม  จะได้สามารถดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน
ให้ดีให้เจริญยิ่ง ๆ  ขึ้นได้  ไม่ตกไปในทางเสื่อม  บัณฑิตมีความรู้ความสามารถเป็นพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว หากแต่ละคน
จะได้นำแนวทางนี้ไปปฏิบัติ  ก็เชื่อว่าจะประสบผลสำเร็จได้ไม่ยากนัก

เวลา ๑๓.๑๗  น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรม
ราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง มหาวิทยาลัยพะเยา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา

เวลา  ๑๔.๒๑  น.  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
เสด็จแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓ ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้  อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวันที่ ๑

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรี
สวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานพระโอวาท ความว่า ประเทศไทยเราผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ของโลกมาได้  ก็เพราะมีเกษตรกรรมเป็นรากฐานสำคัญของชาติ สภาพภูมิศาสตร์ที่เหมาะสม ประกอบกับความเชี่ยวชาญในการเกษตร  ทำให้ประเทศไทยบริบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร จนสามารถพึ่งพาตนเองได้  ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  การที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ  จึงควรให้ภาคการเกษตร  เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อน  โดยใช้องค์ความรู้สมัยใหม่  เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า  และการวิจัย เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมอย่างทันท่วงที   ควบคู่กับการพัฒนาบุคลากรด้านการเกษตรอย่างต่อเนื่อง  หากบัณฑิตทั้งหลาย จะได้นำสิ่งที่พูดนี้ไปเป็นแนวทางปฏิบัติ  ก็จะสามารถเสริมสร้างเศรษฐกิจของไทย  ให้เจริญวัฒนาได้อย่างแน่นอน

ในวันเดียวกันนี้  เวลา  ๑๖.๑๕  น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จไปทรง
ยกยอดปลีฉัตรองค์พระธาตุเจดีย์ ณ วัดผาลาด อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

อนึ่ง เมื่อวันอังคาร ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ เวลา ๐๘.๑๗ น.  สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า
กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง  จากพระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานโครงการเลี้ยงแพะพันธุ์แบล็กเบงกอล  อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยในปี ๒๕๕๓ มีพระราชดำริให้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา เลี้ยงแพะพันธุ์ ดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย จำนวน ๓ ตัว เพื่อนำไปขยายพันธุ์และมอบให้แก่ราษฎรในพื้นที่โครงการ ฯ แพะพันธุ์แบล็กเบงกอลเป็นแพะ
ขนาดเล็ก จุดเด่นคือ สายพันธุ์มีความสมบูรณ์สูง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิชัยพัฒนา ผลิตแพะพันธุ์แบล็กเบงกอล
โดยให้รักษาลักษณะเด่นของสายพันธุ์แท้ไว้ และผลิตแพะสายพันธุ์ผสมระหว่างพันธุ์แบล็กเบงกอล และพันธุ์ซาเนน

 

 

/ เพื่อให้แพะ …

 

 

 

 

 

– ๓ –

เพื่อให้แพะมีความแข็งแรง สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ปัจจุบันมีแพะในโครงการ จำนวน ๓๘๘ ตัว

เป็นพันธุ์แบล็กเบงกอลพันธุ์ซาเนน และแพะลูกผสม ในปี ๒๕๖๔ ได้มอบแพะพระราชทานแก่เกษตรกร
จำนวน ๒๒๒ ตัว และในปี ๒๕๖๕ จะมีแพะพระราชทานมอบให้แก่เกษตรกร จำนวน ๒๕๐ ตัว

เวลา ๑๐.๑๗ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรม

ราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ
อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โอกาสนี้ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือรับรอง  “สลัดสวยงาม” และ “มะเขือเปราะเพชร ล้านนา” ที่ขึ้นทะเบียนตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.๒๕๑๘ และผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ “จันกะผัก – ศรแดง” เพื่อทรงใช้ในการผลิตเมล็ดพันธุ์พระราชทานหมุนเวียน จากนั้น พระราชทานวุฒิบัตรแก่ผู้แทนทหารพันธุ์ดีและตำรวจพันธุ์ดี ที่เข้ารับการอบรม ณ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ  ในโอกาสนี้ ทอดพระเนตรความก้าวหน้าต่าง ๆ ที่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริคิดพัฒนาขึ้น อาทิ การผลิตไส้เดือนฝอย เพื่อลด
การแพร่ระบาดของแมลงศัตรูพืช เป็นต้น ทั้งนี้ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ยังได้ชักชวนให้ชุมชนเข้าร่วมโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักพระราชทาน “เพื่อนช่วยเพื่อน” เพื่อให้ราษฎรมีรายได้เสริม และเป็นกำลังสำคัญในการผลิตเมล็ดพันธุ์ผักสำรองไว้ เพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์พระราชทาน อีกทั้งยังได้จัดทำโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” เพื่อให้ปลูกผักบริโภคในครัวเรือน หากเหลือสามารถจำหน่ายเป็นรายได้เสริม ปัจจุบันมีสมาชิก จำนวน ๒,๐๘๖ หมู่บ้าน ๕๕,๑๔๖ ครัวเรือน

ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๑๖.๒๑ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ

สยามบรมราชกุมารี  เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน อำเภอแม่สาย
จังหวัดเชียงราย ทรงติดตามการดำเนินงานของศูนย์ ฯ โดยในปี ๒๕๖๔ ได้รับผลผลิตเมล็ดชาจากแปลงปลูกชาน้ำมันเขตปูนะและปางมะหัน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จำนวน ๑๒๓,๘๖๓.๗๙ กิโลกรัม สามารถเก็บน้ำมันเมล็ดชาได้ประมาณ ๒๗,๐๐๐ ลิตร เป็นน้ำมันที่มีคุณภาพสูง ประกอบด้วย โอเมก้า ๓ โอเมก้า ๖ และ โอเมก้า ๙ สามารถนำไปประกอบอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง ตลอดจนพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ โลชันบำรุงผิว และครีมอาบน้ำ ด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ ในปี ๒๕๖๔ ทรงมีพระราชานุมัติให้ปรับชื่อจากน้ำมันเมล็ดชา เป็น “น้ำมันเมล็ดคามีเลีย” เพื่อให้มีความเป็นสากล พร้อมทั้งเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากขวดแก้วเหลี่ยมใสเป็นขวดแก้วกลมสีชา เพื่อป้องกันแสง
ที่ส่งผลกระทบต่อการเสื่อมสภาพของน้ำมัน ทำให้รักษาคุณภาพของน้ำมันได้ยาวนานขึ้น โอกาสนี้ ทอดพระเนตรร้านค้าเมล็ดชา ซึ่งจำหน่ายของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลผลิตจากโครงการของมูลนิธิชัยพัฒนา อาทิ

น้ำมันเมล็ดคามีเลีย ผ้าไหมย้อมสีเปลือกเมล็ดคามีเลีย  ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ  ชาสมุนไพร  และสบู่เหลวน้ำมันเมล็ดคามีเลีย กลิ่นดอกพีโอนี  สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับที่ประทับแรม
ณ พระตำหนักดอยตุง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย