วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ.2561

วันศุกร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ.2561

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันศุกร์ ที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๑

วันนี้ เวลา ๐๗.๕๑ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากวังสระปทุม ไปยังกองพลทหารม้าที่ ๒ รักษาพระองค์ สนามเป้า พระราชทานพระราชวโรกาสให้ พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เฝ้าทูลละอองพระบาท น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเป็นพระราชพาหนะลำใหม่ทดแทนเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะเดิม จากนั้น ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการงานชลประทาน และงานโครงการต่าง ๆ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของจังหวัดปราจีนบุรี ณ โครงการอ่างเก็บน้ำ นฤบดินทรจินดา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี
เวลา ๑๔.๒๗ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงแทนพระองค์ ณ อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา
พระราชวังดุสิต พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายอำพล เสนาณรงค์ ประธานกรรมการแผนกเกษตรศาสตร์ มูลนิธิอานันทมหิดล พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์วุฒิชัย กปิลกาญจน์ กรรมการแผนกเกษตรศาสตร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์สุตเขตต์ นาคะเสถียร คณบดีคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
นำ นางสาวปิยาภัสร์ ศรีเจริญเวช ผู้ได้รับพระราชทานทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ประจำปี ๒๕๖๐ ไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอก สาขาเคมีของดินและความอุดมสมบูรณ์ของดิน (Soil Science) ณ มหาวิทยาลัยเดลาแวร์ (University of Delaware) สหรัฐอเมริกา เฝ้าทูลละอองพระบาท กราบถวายบังคมลา ต่อจากนั้น
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้
นางซาฟีนา โกมลตะเมธี นายกสมาคมนิสิตเก่าอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระราชูปถัมภ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ชุดที่ ๒๒ และคณะกรรมการบริหารสมาคม ฯ
เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินรายได้จากการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เนื่องในโอกาส
ครบ ๑๐๐ ปี คณะอักษรศาสตร์ เพื่อสมทบทุนมูลนิธิมหาจักรีสิรินธร เพื่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเพื่อสมทบทุนอักษรศาสตร์ จุฬา ฯ ๑๐๐ ปี กองทุนบรมราชกุมารี คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเข็มที่ระลึก ๑๐๐ ปี คณะอักษรศาสตร์ และหนังสือ “อมฤตาภรณ์อักษรศาสตร์ร้อยปี” เพื่อทรงใช้ตามพระราชอัธยาศัย
ในวันเดียวกันนี้ เวลา ๑๐.๕๓ น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเปิดอาคาร ๑๕๐ ปี มหาบุรุษรัตโนดม (ช่วง บุนนาค) และอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยราชภัฏ
บ้านสมเด็จเจ้าพระยา กับทอดพระเนตรแหล่งเรียนรู้กรุงธนบุรีศึกษาและการแสดงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์
ณ อาคาร ๑๕๐ ปี มหาบุรุษรัตโนดม (ช่วง บุนนาค) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร

/อนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี…

– ๒ –

อนึ่ง เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๑ เวลา ๐๘.๕๗ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักธงน้อย อำเภอเมืองน่าน
จังหวัดน่าน ไปยังวัดพระธาตุแช่แห้ง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน ทรงตัดหวายลูกนิมิตลูกเอกพระอุโบสถ
หลังใหม่ ซึ่งลูกนิมิตลูกเอก ถือเป็นประธานของลูกนิมิตทั้ง ๙ ลูก ตั้งอยู่กลางพระอุโบสถเพื่อถวายการบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนอีก ๘ ลูก ตั้งอยู่ตามทิศต่าง ๆ โดยรอบพระอุโบสถ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนพระอรหันต์สาวกที่รักษาพระอุโบสถ สำหรับพระอุโบสถหลังใหม่นี้ สร้างขึ้นทดแทน
พระอุโบสถหลังเดิม ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี ๒๔๘๑ ลักษณะสถาปัตยกรรมไทยภาคกลาง มีความเก่าแก่ และชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา โดยเฉพาะ
เมื่อปี ๒๕๕๔ เกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือ ทำให้พระอุโบสถมีรอยร้าว และกำแพงพังเสียหาย
ในปี ๒๕๕๙ พระชยานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง และคณะกรรมการวัด ฯ มีมติที่จะบูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถขึ้นใหม่ โดยเปลี่ยนแบบเป็นสถาปัตยกรรมล้านนาเมืองน่าน คือ ผนังโดยรอบพระอุโบสถออกแบบเปิดโล่ง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถเห็นการทำสังฆกรรมของคณะสงฆ์
โดยสร้างแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๐ ภายในประดิษฐานพระเจ้า ๕ พระองค์ เป็นพระประธานประจำพระอุโบสถ วัดพระธาตุแช่แห้ง เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง องค์พระธาตุแช่แห้งตั้งอยู่บนเนินเขา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์ซ้ายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระธาตุประจำปีเถาะ ชาวล้านนาเชื่อว่าหากเดินทางไปนมัสการพระธาตุประจำปีเกิด จะได้รับอานิสงส์อย่างยิ่ง ทุกปีจะมีการจัดงานประเพณีหกเป็ง งานขึ้นพระธาตุแช่แห้ง เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ปัจจุบันมีพระภิกษุ และสามเณรจำพรรษา ๑๘๘ รูป
เวลา ๑๒.๒๘ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน
ไปยังโรงเรียนนันทบุรีวิทยา ในพระบรมราชานุเคราะห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ทรงติดตามการ
จัดการศึกษาของโรงเรียน ฯ ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อสงเคราะห์เด็กที่ไม่มีที่เรียน ฐานะยากจน บิดา – มารดา เสียชีวิต
และมีภูมิลำเนาอยู่ในถิ่นทุรกันดาร เปิดสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ – ๖ มีนักเรียน ๔๖๖ คน ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าต่าง ๆ อาทิ ม้งและเมี่ยน โดยเป็นนักเรียนพักนอน ๒๑๘ คน แยกเป็นนักเรียนหอพักหญิงดรุณรักษ์ ตามโครงการในพระราชดำริ ๑๒๐ คน และนักเรียนชายตามโครงการหอพักโรงเรียน ฯ ๙๘ คน สำหรับผลโอเน็ตชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ วิชาภาษาไทย และวิชาสังคมศึกษา
ศาสนาและวัฒนธรรม มีคะแนนเพิ่มขึ้น ส่วนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ วิชาภาษาไทย และวิชาภาษาอังกฤษ
มีคะแนนเพิ่มขึ้น โอกาสนี้ ทอดพระเนตรกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโครงการยุวเกษตรกร เพื่อให้เรียนรู้และดำเนินกิจกรรมการเกษตรตามความสนใจจากการ
ลงมือปฏิบัติจริง ปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้อง และความพร้อมในการสืบทอดอาชีพการเกษตร เช่น การเรียนรู้มหัศจรรย์นาข้าวนันทบุรี สอนทำนาข้าวเกษตรอินทรีย์ ตั้งแต่การปลูกจนถึงการเก็บ ปลูกพืชผักสวนครัวและผักกางมุ้ง เลี้ยงไก่ ปลา กบ, ปลูกหม่อนกินผล, ทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ และจุลินทรีย์น้ำ ผลผลิตนำไปประกอบอาหาร เมื่อเหลือจะจำหน่ายในสหกรณ์โรงเรียน นอกจากนี้ ได้จัดการเรียนการสอนสู่การปฏิบัติจริงเรื่อง น้ำน้อยเข้านา ให้นักเรียนได้ออกแบบ ทดลอง ลงมือปฏิบัติ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ส่วนโครงการฝึกอาชีพระยะสั้น เป็นการเรียนการสอนของชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ร่วมกับวิทยาลัย
สารพัดช่างน่าน ที่ให้เลือกตามความสนใจ อาทิ ตัดผม, ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนศิลป์อาชีพ จะได้

/เรียนหลักสูตร…

– ๓ –

เรียนหลักสูตรทวิศึกษา สาขาวิชาช่างยนต์ และสาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับวุฒิการศึกษามัธยมปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ จากนั้น ทอดพระเนตรกิจกรรมบริษัทจำลอง โครงการ
๑ คน ๑ อาชีพ จัดกระบวนการเรียนการสอนแบบกิจกรรมชุมนุม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” เพื่อให้ฝึกประสบการณ์เกี่ยวกับอาชีพที่สนใจ สามารถนำไปประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยรวมกลุ่มจัดตั้งในรูปบริษัท มีการระดมทุนโดยการซื้อหุ้น ใช้เป็นทุนดำเนินการ และแบ่งปันผลกำไร
จากการจำหน่ายผลผลิตแก่ผู้ถือหุ้นตามจำนวนหุ้นที่ซื้อ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง
เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานน่านนคร เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
กรุงเทพมหานคร
ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๑๙.๒๐ น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี
พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงวางศิลาฤกษ์อุโบสถ และทรงยกช่อฟ้าศาลาการเปรียญ
ณ วัดไชยศรีชมชื่น อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา