วันอาทิตย์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2563

วันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2563

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันอาทิตย์ ที่ ๑๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓

วันนี้ เวลา ๑๖.๔๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี
กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน
ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จเข้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้าซึ่งตั้งอยู่หน้าอาสน์สงฆ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธชินสีห์
พระประธานพระอุโบสถ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ทรงกราบ จากนั้น ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้าพาดระหว่างพระกร ทรงกล่าวคำถวาย
ผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ ๒
เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมแล้ว ทรงจุดธูปเทียนถวายสักการะพระรูปสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยา
ปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวง
วชิรญาณวงศ์ และพระอัฐิสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร (เจริญ สุวฑ̣ฒโน) พระราชกรรมวาจาจารย์ ทรงทอดผ้าไตร ๑๐ ไตร บนพระภูษาโยงที่อาสน์สงฆ์ พระสงฆ์ ๑๐ รูป สดับปกรณ์ พระสงฆ์ที่สดับปกรณ์
และพระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐิน เสร็จแล้วกลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์ จากนั้น
เสด็จพระราชดำเนินไปถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก
พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้วทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ ทรงรับ
การถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง
เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
เวลา ๑๗.๔๔ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปในการพระราชพิธี
ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เสด็จเข้าพระมณฑปเจดีย์ศรีรัตนมหาธาตุ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ทรงกราบ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา
นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี
นารีรัตนราชกัญญา ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ทรงกราบ แล้วเสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงวางผ้าไตรเหนือพานแว่นฟ้า ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา
พระศรีสรรเพชญ์ พระประธานพระอุโบสถ ทรงกราบ จากนั้น ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้าพาดระหว่างพระกร

 

/ทรงกล่าวคำ …

 

– ๒ –

ทรงกล่าวคำถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้าที่เดิม ทรงประเคนผ้าไตร และเทียนปาฏิโมกข์
แด่พระสงฆ์รูปที่ ๒ เมื่อพระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรมแล้ว พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐินออกไปครองผ้าพระกฐิน
เสร็จแล้วกลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์ เสด็จพระราชดำเนินไปถวายเครื่องบริวารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้
นายชาติชาย กริชชาญชัย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา กราบบังคมทูลเบิกผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก เสร็จแล้ว ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ
ทรงลาพระสงฆ์ ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ในวันเดียวกันนี้ เวลา ๐๙.๐๑ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินสภากาชาดไทย ประจำปี ๒๕๖๓ ณ วัดทัพทันวัฒนาราม อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี
อนึ่ง เมื่อวันเสาร์ ที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๔.๑๘ น. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ
เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่ง
จากเรือนรับรองที่ประทับเขื่อนสิริกิติ์ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จไปทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี (หน่วยแพทย์ พอ.สว.) จังหวัดพิษณุโลก ณ หอประชุมอนุสรณ์ ๑๐๐ ปี คุณย่าประสาท รักเลี้ยง มหาวิทยาลัยพิษณุโลก อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
ครั้นเสด็จถึงหอประชุมอนุสรณ์ ๑๐๐ ปี ฯ พระราชทานพระวโรกาสให้ ประธานกรรมการ พอ.สว.
ประจำจังหวัดพิษณุโลก เฝ้า กราบทูลรายงาน จากนั้น เสด็จไปทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จังหวัดพิษณุโลก ในโอกาสที่โปรดให้หน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิ
แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม และแพทย์แผนไทย ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคระบบกล้ามเนื้อกระดูก
และข้อ กับทรงพระกรุณาโปรดให้หน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์ จังหวัดพิษณุโลก
ออกหน่วยให้บริการคำปรึกษาและมอบเวชภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย ในการนี้ ทรงเยี่ยมผู้ป่วยนำเฝ้า จำนวน ๗ คน ซึ่งป่วยด้วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดและความดันปอดสูง ข้ออักเสบเรื้อรัง มะเร็งกระดูก ผิวหนังแข็ง
และมีพังผืดที่ปอด แพ้ภูมิตนเอง ไตวายระยะสุดท้าย และมะเร็งผิวหนัง โดยทรงมีพระวินิจฉัยอาการ
เพื่อการรักษาร่วมกับคณะแพทย์ และโปรดให้ส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กับพระราชทานเงิน
เป็นค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายในครอบครัว และพระราชทานกำลังใจแก่ผู้ป่วยและครอบครัว จากนั้น
พระราชทานพระวโรกาสให้ ผู้แทนกรรมการ อนุกรรมการ และอาสาสมัคร พอ.สว. เฝ้า รับพระราชทาน
เข็มเครื่องหมายกรรมการ เข็มเครื่องหมายอนุกรรมการ เข็มเครื่องหมาย พอ.สว. เข็มพระนามาภิไธย สว.
และโล่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ในโอกาสนี้ พระราชทานพระดำรัสเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ และพระราชทานกำลังใจแก่สมาชิก พอ.สว. ด้วย สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวมหาวิทยาลัยพิษณุโลก เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานพิษณุโลก เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จกลับกรุงเทพมหานคร