วันเสาร์ ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2560

วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2560

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันเสาร์ ที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐

วันนี้ เวลา ๑๖.๔๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง
จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร (เป็นวันที่ ๒)
เวลา ๑๔.๐๔ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทาน
ปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ ณ อาคาร
ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบ พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวัง
สนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาท
ความว่า ความเป็นบัณฑิตแท้หมายรู้ได้ด้วยคุณสมบัติหลายอย่าง ที่สำคัญคือสติรู้ตัว กับปัญญารู้คิด
สติกับปัญญานี้ หากฝึกฝนสร้างเสริมให้เพิ่มพูนกล้าแข็งอยู่เสมอ ก็จะมีกำลังขึ้น เรียกว่าเป็นกำลังสติ
และกำลังปัญญา กำลังทั้งสองเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการประกอบกิจการงาน เพราะเป็นพลัง
เครื่องเกื้อกูลการปฏิบัติงานและการต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคข้อขัดข้องต่าง ๆ กล่าวคือ กำลังสติ เป็นเครื่องช่วย
ให้บุคคลมีความยั้งคิด มีความรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วน ไม่ประมาทพลั้งเผลอ ส่วนกำลังปัญญา
เป็นเครื่องช่วยพิจารณาหาแนวทางปฏิบัติงาน และหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยมีกำลังสติ
คอยควบคุมประคับประคองให้เป็นไปอย่างถูกต้องชอบธรรม จึงขอให้บัณฑิตทุกคนหมั่นฝึกฝนพัฒนาสติ
และปัญญาของตน จนก่อเกิดเป็นกำลังอันกล้าแข็ง ที่จะสามารถนำไปใช้ให้บังเกิดประโยชน์แก่การ
ประกอบกิจการงานได้อย่างเต็มที่ แต่ละคนจึงจะได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิตแท้ คือเป็นผู้สามารถสร้างสรรค์
ความเจริญมั่นคงที่แท้ให้แก่ตนเองและชาติบ้านเมือง
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไป
ทรงร่วมงานเลี้ยงรับรองซึ่งมหาวิทยาลัยศิลปากรจัดขึ้น เพื่อแสดงความยินดี แก่ผู้ได้รับพระราชทานปริญญาบัตร
ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ผู้ได้รับพระราชทานเกียรติบัตรศาสตราจารย์เกียรติคุณ และผู้ได้รับประกาศ
เกียรติคุณ ผลงานวิจัยดีเด่น ณ อาคารเรือนรับรอง ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบ
พระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวัง สนามจันทร์ อำเภอเมืองนครปฐม
จังหวัดนครปฐม
ในวันเดียวกันนี้ เวลา ๑๗.๔๖ น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์
อัครราชกุมารี เสด็จไปทรงเปิด บริษัท สยาม กลิตเตอร์ ๑๙๕๗ จำกัด ณ พระตำหนัก จักรีบงกช
อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
ในโอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ เฝ้ารับเสด็จ
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ ที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๙.๔๒ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปพระราชทาน
ปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
/ ในวันเดียวกันนั้น …

– ๒ –

ในวันเดียวกันนั้น เวลา ๐๘.๑๘ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากเรือนประทับแรมโป่งแดง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัด
แม่ฮ่องสอน ไปยังพื้นที่ทดลองป่าเปียก บริเวณอ่างเก็บน้ำอัสดง ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มแม่น้ำปาย
ซึ่งได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาทดลอง
ปลูกป่าขึ้น เพื่อป้องกันไฟป่า และสร้างความชุ่มชื้นแก่พื้นที่ โดยผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยอัสดง ไปใช้ในพื้นที่
ของป่า ในโอกาสนี้ ทรงปล่อยสัตว์ป่า ประกอบด้วย นกยูงไทย จำนวน ๒ ตัว ไก่ฟ้าหลังขาว จำนวน ๓๐ ตัว
และไก่ป่าตุ้มหูแดง จำนวน ๓๑ ตัว คืนสู่ป่าธรรมชาติ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง
ไปยังพระธาตุดอยกองมู พระอารามหลวง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทรงวางพุ่มดอกไม้
ถวายราชสักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อทันใจ และทรงประเคนเครื่องไทยธรรมถวายแด่เจ้าอาวาส เสร็จแล้ว
เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ไปทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนชมรมอนุรักษ์
พุทธศิลปไทยอนุสรณ์ ๒ อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งขึ้นเมื่อปี ๒๕๓๔ ปัจจุบันเปิดทำการเรียน
การสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีนักเรียน จำนวน ๙๖ คน ในการนี้ ทอดพระเนตร
การเรียนการสอน และโครงการฝึกอาชีพของโรงเรียน ฯ อาทิ ช่างตัดผม ช่างซ่อมจักรยานและจักรยานยนต์
ช่างเชื่อมโลหะ และช่างซ่อมบำรุงรักษาโซล่าเซลล์ รวมทั้งทอดพระเนตรการปลูกผักในโครงการเกษตร
เพื่ออาหารกลางวัน และทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้มาทำการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย กับทรงเยี่ยมราษฎรที่มารอเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ จากนั้น
เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านจอปร่าคี อำเภอแม่สะเรียง
จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งพระราชทานชื่อใหม่ว่า “โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ๙๐๕” เนื่องจากเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนลำดับที่ ๙๐๕ ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยม ในโอกาสนี้ ทรงเปิดป้ายโรงเรียน ฯ
และทรงติดตามการดำเนินการโครงการพระราชดำริที่มีพระราชประสงค์ให้มีขึ้นในพื้นที่บ้านจอปร่าคีและ
บ้านจอกลอคี ซึ่งทั้งสองหมู่บ้านนี้ ตั้งอยู่บนภูเขาสูงห่างไกลและทุรกันดาร อยู่ในเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนขึ้นเมื่อปี ๒๕๕๑
เพื่อเป็นสถานศึกษาขยายโอกาสให้เยาวชนในท้องถิ่นได้เรียนภาษาไทย ซึ่งปัจจุบันนักเรียนของโรงเรียน ฯ
ทุกคน อ่าน เขียน และพูดภาษาไทยได้ และสามารถเรียนรู้วิชาการผ่านทางระบบการศึกษาทางไกล
ผ่านดาวเทียม นอกจากนี้ ยังเปิดอบรมให้ความรู้แก่นักเรียนและผู้ปกครอง ในเรื่องการทำเกษตรปลูกผัก
สวนครัว ปลูกไม้ผล เลี้ยงไก่ สุกร และเป็ดไข่ไว้บริโภคด้วย ในการนี้ ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน
ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มาทำการรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วย และทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้า
ทูลละอองพระบาทรับเสด็จ สมควรแก่เวลา จึงประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยัง
ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร