เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ส่งผลให้มีผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างต่อเนื่อง จนทำให้จำนวนโลหิตสำรองในโรงพยาบาลต่าง ๆ มีน้อยลง ซึ่งในการพร้อมใจกันร่วมบริจาคโลหิตของข้าราชบริพารในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงการเป็นแบบอย่างของข้าราชการที่ดี เสียสละอุทิศตน ช่วยเหลือและทำความดีเพื่อส่วนรวม ปฏิบัติตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข โดยระหว่างวันที่ 18 – 22 มกราคม 2564 หน่วยราชการในพระองค์พร้อมใจบริจาคโลหิต เพื่อใช้เป็นโลหิตสำรองในการรักษาพยาบาลผู้ป่วย และร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บริจาค และส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ
วันที่ 18 มกราคม 2564 เวลา 09.00 น. ข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ จากกองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และกองบัญชาการนายตำรวจราชองครักษ์ในพระองค์ พร้อมใจเข้าร่วมบริจาคโลหิต ณ เขตพระราชฐานในพระองค์ ฯ ราชวิถี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ในวันนี้มี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหน่วยบริการที่เข้ารับบริจาคโลหิต โดยมีข้าราชบริพารผ่านการคัดกรองร่วมบริจาคโลหิต จำนวน 149 คน ได้โลหิต จำนวนรวม 67,050 ซีซี ซึ่งจะนำไปเป็นโลหิตสำรอง สำหรับนำไปใช้ในการรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยต่อไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ในประเทศไทย ในช่วงต้นปี 2563 หน่วยราชการในพระองค์ อาทิ หน่วยเฉพาะกิจ 904 ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ กองพันทหารม้าที่ 2 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ได้ร่วมบริจาคโลหิต ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อส่งต่อโลหิตแก่ผู้ป่วย และโรงพยาบาลที่มีความประสงค์ เพื่อใช้เป็นโลหิตสำรองอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ติดต่อเรา
สงวนลิขสิทธิ์โดย หน่วยราชการในพระองค์
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของส่วนราชการในพระองค์ เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของส่วนราชการในพระองค์ ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้
คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ส่วนราชการในพระองค์ ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ ส่วนราชการในพระองค์ ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ ส่วนราชการในพระองค์ จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น จดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่า ขนาดภาษาหรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์