คำกราบบังคมทูล(๑) ของ นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา ในฐานะนายกเนติบัณฑิตยสภา ในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตรแก่ผู้สอบไล่ได้ ตามหลักสูตรของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา สมัยที่ ๗๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต วันเสาร์ที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๒ ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ข้าพระพุทธเจ้า นายชีพ จุลมนต์ นายกเนติบัณฑิตยสภา พร้อมด้วยสภา นายกพิเศษแห่งเนติบัณฑิตยสภา คณะกรรมการเนติบัณฑิตยสภา คณะกรรมการ อำนวยการอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา คณาจารย์ และเนติบัณฑิต ที่ได้มาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ ที่นี้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อม ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทาน ประกาศนียบัตรแก่ผู้สอบไล่ได้ ตามหลักสูตรของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่ง เนติบัณฑิตยสภา สมัยที่ ๗๐ ปีการศึกษา ๒๕๖๐ ในวันนี้ ซึ่งยังความปีติปราโมทย์ แก่บรรดาผู้ที่ได้มาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ด้วยความจงรักภักดีอยู่ณ ที่นี้ โดยทั่วกัน ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตกราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับ การศึกษาของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ดังนี้ (๑) ถ้อยคำและอักขรวิธีตรงตามต้นฉบับ 143
นับแต่เนติบัณฑิตยสภาได้ตั้งสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประสิทธิ์ประสาทและส่งเสริมการศึกษาวิชานิติศาสตร์และความรู้ ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพทางกฎหมาย การดำเนินงานของสำนักอบรมศึกษา กฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภาได้เจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ มีการพัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอนให้ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ มีการจัดหลักสูตรพิเศษเพื่อ เพิ่มพูนความรู้ความชำนาญแก่นักกฎหมายและบุคคลทั่วไป เนติบัณฑิตทุกรุ่นต่างมีความสำนึกว่า การรักษาความยุติธรรมในแผ่นดิน ไม่ควรจะถือเพียงแค่ขอบเขตของกฎหมาย จำเป็นต้องขยายออกไปให้ถึงศีลธรรมจรรยา ตลอดจนเหตุและผลตามความเป็นจริงด้วย บัดนี้ ได้เวลาเป็นมงคลแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตเบิก นายประเสริฐ เสียงสุทธิวงศ์ เลขาธิการสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา นายธานี สิงหนาท ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา และนายศักดา ช่วงรังษี รองเลขาธิการ สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา เพื่อกราบบังคมทูลเบิกเนติบัณฑิต เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานประกาศนียบัตร พร้อมทั้งขอรับพระราชทาน พระราโชวาท เพื่อเนติบัณฑิตใหม่ทั้งหลายจักได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมยึดเป็นหลัก ในการประพฤติตนและประกอบวิชาชีพต่อไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม 144