พระราชดำรัส
ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสโลวีเนีย (๑)
เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง (๒)
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน
วันพฤหัสบดี ที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๙
ท่านเอกอัครราชทูต
ข้าพเจ้ามีความยินดีที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนีย
แต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐสโลวีเนียประจำประเทศไทย
พร้อมด้วยอักษรสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน.
ขอขอบใจท่านประธานาธิบดี ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้าและประชาชนชาวไทย ทั้งขอแสดงความปรารถนาดีเพื่อความสุขของท่านประธานาธิบดี
และเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวสโลวีเนีย.
ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชมที่ท่านได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐสโลวีเนียที่เจริญงอกงามมาอย่างมั่นคงและราบรื่น
รวมทั้งความร่วมมือในกิจการด้านต่าง ๆ ทั้งระดับทวิภาคี ระดับภูมิภาคและระดับโลก. ความสัมพันธ์และความร่วมมือดังกล่าวนับวันจะเจริญงอกงาม
และขยายขอบเขตกว้างขวางออกไป. ทั้งนี้ เพราะประเทศของเราทั้งสองต่างยึดมั่นในมิตรภาพ ความเคารพยกย่องและความจริงใจต่อกัน
จึงมีมิตรไมตรี ความเข้าใจอันดี และความปรารถนาดีอย่างลึกซึ้งเสมอมา. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าไมตรีจิตมิตรภาพที่มีอยู่ระหว่างประเทศทั้งสอง
(๑) Mr. Janez Premo.e
(๒) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จออกรับอักษรสาส์นตราตั้งแทนพระองค์
381
กอปรกับความประสงค์ของสาธารณรัฐสโลวีเนียและความตั้งใจของท่านที่จะส่งเสริมความร่วมมือในกิจการทุกด้าน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านเศรษฐกิจและการค้า รวมทั้งการแลกเปลี่ยนประชาชนไปมาหาสู่กัน ให้กระชับแน่นแฟ้น
จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้สัมพันธไมตรีและความร่วมมือระหว่างกันได้ใกล้ชิดสนิทสนมแนบแน่น และทวีเพิ่มพูนยิ่งขึ้นไปอีก
ซึ่งจะเป็นผลเกื้อกูลให้ประเทศและประชาชนของเรา ตลอดจนนานาประเทศและมวลมนุษยชาติในโลกมีความมั่นคงความรุ่งเรืองก้าวหน้า
และความร่มเย็นเป็นสุขอันยั่งยืนตลอดไป.
ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่าท่านจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า
และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือทุกประการเท่าที่จะกระทำได้
เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน.
382