พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(๑) เข้าเฝ้า ฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันศุกร์ ที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๑ ท่านเอกอัครราชทูต ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับอักษรสาส์นตราตั้งจากท่านประธานประเทศ แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว แต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มี อำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย พร้อมด้วย อักษรสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน. ขอขอบใจท่านประธานประเทศ ในไมตรีจิตที่มีต่อข้าพเจ้าและพระราชวงศ์ ทั้งขอแสดงความปรารถนาดี เพื่อความสุขของท่านประธานประเทศ และความเจริญ รุ่งเรืองของประเทศและประชาชนชาวลาว. ข้าพเจ้ารู้สึกชื่นชม ที่ท่านได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือ ระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีมาอย่างแนบแน่น มั่นคง. ความสัมพันธ์และความร่วมมือดังกล่าว นับวันจะทวีเพิ่มพูนยิ่งขึ้น. ทั้งนี้ เพราะประเทศของเราทั้งสองนอกจากจะเป็นประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิดติดกัน ที่มีศาสนา ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมคล้ายคลึงกันแล้ว ยังเป็น ประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนด้วยกันอีกด้วย จึงคบหาติดต่อกันฉันญาติและ ฉันมิตรอย่างสนิทสนม ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ ความเคารพยกย่อง และความ ปรารถนาดีเสมอมา. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ไมตรีจิตมิตรภาพที่มีอยู่ระหว่างประเทศ ทั้งสอง กอปรกับความตั้งใจของท่านที่จะทุ่มเทความสามารถทั้งหมด เพื่อส่งเสริม (๑) Mr. Seng Soukhathivong 390
สัมพันธภาพและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ให้กระชับ แน่นแฟ้น จะช่วยสร้างเสริมสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในกิจการด้านต่าง ๆ ให้เพิ่มพูนกว้างขวางขึ้นไปอีก ซึ่งจะเป็นผลเกื้อกูลให้ประเทศของเรา รวมทั้งประเทศ ทั้งหลายในภูมิภาคนี้และภูมิภาคอื่น ๆ ของโลก มีเสถียรภาพ ความวัฒนาก้าวหน้า และสันติสุขอันยั่งยืนตลอดไป. ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุน อย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือ ทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน. 391