พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล รองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำ ผู้ได้รับพระราชทาน รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี ๒๕๖๖ เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี ๒๕๖๖

วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม พ.ศ.2567

       วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๖๗  เวลา  ๑๖.๒๔  น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกแทนพระองค์ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง พระราชทานพระราชวโรกาสให้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์อภิชาติ อัศวมงคลกุล รองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำ ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี ๒๕๖๖ เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี ๒๕๖๖ ดังนี้
      สาขาการแพทย์ ศาสตราจารย์ นายแพทย์นาโปเลโอเน เฟอร์รารา (Napoleone Ferrara, M.D.) ศาสตราจารย์พิศิษฐ์ ภาควิชาจักษุวิทยาและพยาธิวิทยา รองผู้อำนวยการอาวุโสด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ศูนย์มะเร็งมัวรส์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แซนดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีผลงานจากการค้นพบและสกัดโปรตีนที่เร่งการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด หรือโปรตีนวีอีจีเอฟ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารกระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด ซึ่งได้ทำการศึกษาทั้งในด้านชีวเคมีและชีววิทยาโมเลกุลของโปรตีนวีอีจีเอฟ รวมถึงตัวรับโปรตีนวีอีจีเอฟชนิดต่าง ๆ และกลไกในการกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดใหม่ทั้งในภาวะปกติ และภาวะที่เกิดพยาธิสภาพ ที่สำคัญคือโรคมะเร็งบางชนิด และโรคศูนย์กลางจอตาเสื่อมจากอายุ หรือโรคเอเอ็มดี ผลการศึกษาดังกล่าว นำไปสู่การพัฒนายาชนิดแอนติบอดีต่อโปรตีนวีอีจีเอฟ ได้แก่ ยาบีวาซิซูแมบ (เอวาสติน) ใช้ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะที่มีความรุนแรงร่วมกับมีการสร้างหลอดเลือดอย่างหนาแน่น ได้แก่ มะเร็งสมอง มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ นอกจากนี้ ผลงานของศาสตราจารย์ นายแพทย์นาโปเลโอเน เฟอร์รารา ยังได้เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยสูงอายุที่เป็นโรคเอเอ็มดี ด้วยผลิตภัณฑ์ยาที่มีองค์ประกอบหลักเป็นส่วนของแอนติบอดี และมีฤทธิ์ต้านการทำงานของโปรตีนวีอีจีเอฟ คือ ยารานิบิซูแมบ (ลูเซนติส) อีกด้วย ผลสำเร็จจากการศึกษาค้นคว้าของศาสตราจารย์ นายแพทย์นาโปเลโอเน เฟอร์รารา เกี่ยวกับโปรตีนวีอีจีเอฟ และการรักษาด้วยยาแอนติบอดีต่อโปรตีนวีอีจีเอฟ ได้ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในผู้ป่วยโรคมะเร็ง และโรคตา เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอนามัยของผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลก

      สาขาการสาธารณสุข ศาสตราจารย์ นายแพทย์แบร์รี่ เอช. รูแมค (Barry H. Rumack, M.D.) ศาสตราจารย์เกียรติคุณ สาขากุมารเวชศาสตร์ และเวชศาสตร์ฉุกเฉิน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคโลราโด สหรัฐอเมริกา เป็นผู้มีความสนใจศึกษาเกี่ยวกับเภสัชวิทยาและพิษวิทยาของยาพาราเซตามอล ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย ภาวะพิษจากยาพาราเซตามอลเป็นสาเหตุของภาวะตับวายเฉียบพลันร้อยละ ๔๐ – ๗๐ ของผู้ป่วยทั่วโลก ซึ่งศาสตราจารย์ นายแพทย์แบร์รี่ เอช. รูแมค ได้รวบรวมกรณีผู้ป่วยภาวะพิษจากยาพาราเซตามอลเกินขนาด ๓๔ กรณี รวมกับกรณีที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ก่อนหน้านั้น ๓๐ กรณี นำมาใช้เป็นข้อมูลสร้างเป็นภาพกราฟ ประดิษฐ์เป็นเครื่องมือประเมินความเสี่ยงและวินิจฉัยผู้ป่วยภาวะพิษจากยาพาราเซตามอลเฉียบพลันที่เรียกว่า รูแมค–แมทธิว โนโมแกรม (Rumack–Matthew Nomogram) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีชื่อเสียงอย่างมากในวงการแพทย์ทั่วโลก เป็นภาพกราฟแสดงระดับความเข้มข้นของยาพาราเซตามอลในเลือดและระยะเวลาหลังการกินยาเกินขนาด และบ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อภาวะเป็นพิษต่อตับในผู้ป่วยแต่ละราย เครื่องมือนี้ช่วยให้แพทย์ทั่วโลกวินิจฉัยและรักษาภาวะพิษจากพาราเซตามอลเกินขนาดแบบเฉียบพลันได้อย่างเหมาะสม และเป็นส่วนสำคัญของแนวทางการรักษาซึ่งกลายเป็นมาตรฐานสากลในการรักษาภาวะพิษจากพาราเซตามอล การประยุกต์ใช้เครื่องมือนี้ร่วมกับประสิทธิภาพของยา เอ็น-อะซิติลซิสเตอีน (N-acetylcysteine) ที่ใช้เป็นยาต้านพิษช่วยลดภาวะตับอักเสบชนิดรุนแรงจากพาราเซตามอลลงอย่างมาก จากอุบัติการณ์ ๕๔% เหลือเกือบ ๐% และแนวทางการรักษานี้ยังคงใช้ในห้องฉุกเฉินทั่วโลกในปัจจุบัน นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์แบร์รี่ เอช. รูแมค ยังเป็นผู้พัฒนาและบุกเบิกการใช้ พอยซินเด็กซ์ (Poisindex) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลดิจิทัลทางด้านพิษวิทยาคลินิก และเป็นฐานข้อมูลมาตรฐานที่ใช้อ้างอิงในการรักษาผู้ป่วยด้วยข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยในโรงพยาบาลและศูนย์พิษวิทยาทั่วโลกอีกด้วย นับได้ว่า ศาสตราจารย์ นายแพทย์แบร์รี่ เอช. รูแมค เป็นผู้ที่มีคุณูปการในสาขาพิษวิทยาทางการแพทย์ ด้วยการทำงานวิจัยทางด้านภาวะพิษของพาราเซตามอลอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน เป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วย ความมุ่งมั่นในฐานะแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ของศาสตราจารย์ นายแพทย์แบร์รี่ เอช. รูแมค ได้ทำให้เกิดนวัตกรรมที่นำไปประยุกต์ใช้ช่วยชีวิตผู้ป่วยจำนวนนับล้านคนทั่วโลก เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจให้แพทย์และบุคลากรด้านสาธารณสุข ในการปฏิบัติงานศึกษาและค้นคว้าเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติอย่างไม่หยุดยั้งในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำรัส

      ในโอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำรัส ความว่า การศึกษาค้นคว้าวิจัย เพื่อรักษาโรคใดโรคหนึ่ง หรือรักษาภาวะพิษจากยาชนิดใดชนิดหนึ่งนั้น จำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจถึงพยาธิสภาพ กลไกการเกิดโรคหรือภาวะพิษ รวมทั้งพยาธิสรีรวิทยาของโรคหรือภาวะพิษนั้น ๆ จึงจะสามารถค้นพบวิธีการรักษาโรค และต้านภาวะพิษดังกล่าวได้ ดังเช่นผลงานของศาสตราจารย์ นายแพทย์นาโปเลโอเน เฟอร์รารา ที่ได้ค้นพบและสกัดโปรตีนวีอีจีเอฟ ซึ่งเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือด อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้โรคมะเร็งหลายชนิดและโรคศูนย์กลางจอตาเสื่อมจากอายุรุนแรงขึ้น นำไปสู่การพัฒนายาต้านโปรตีนวีอีจีเอฟ เพื่อรักษาโรคดังกล่าว กับผลงานของศาสตราจารย์ นายแพทย์แบร์รี่ เอช. รูแมค ที่ได้ศึกษาภาวะพิษจากการกินยาพาราเซตามอลเกินขนาด แล้วประดิษฐ์เครื่องมือประเมินความเสี่ยงอันนำไปสู่การวินิจฉัยและรักษาภาวะพิษจากยาพาราเซตามอล ได้อย่างเหมาะสม เป็นประโยชน์แก่สุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของคนทั่วโลก ข้าพเจ้าจึงขอแสดงความ
นิยมชื่นชมกับทั้งสองท่านที่ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี ๒๕๖๖ ด้วยผลงานอันเกิดจากความวิริยอุตสาหะ ความเสียสละอดทน และความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์อย่างสูงยิ่งทั้งนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์และกิจกรรมอื่นๆ