พระราชดำรัส ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมาน เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต วันจันทร์ ที่ 19 เมษายน 2564

วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ.2564

พระราชดำรัส
ในโอกาสที่เอกอัครราชทูตรัฐสุลต่านโอมาน (๑)
เข้าเฝ้า ฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
วันจันทร์ ที่ 19 เมษายน 2564
——————

ท่านเอกอัครราชทูต

ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่ได้รับพระราชสาส์นตราตั้งจากสุลต่านแห่งโอมาน ทรงแต่งตั้งท่านเป็นเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งรัฐสุลต่านโอมานประจำประเทศไทย พร้อมด้วยพระราชสาส์นถอนเอกอัครราชทูตคนก่อน.
ขอขอบพระทัยสุลต่าน ในพระราชปรารถนาดีที่มีต่อข้าพเจ้าและประชาชนชาวไทย ขอถวายพระพรให้ทรงพระเกษมสำราญ และขอให้ประเทศและประชาชนชาวโอมาน ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองสืบไป.
ประเทศไทยและรัฐสุลต่านโอมาน มีความสัมพันธ์อันดีมาอย่างสนิทสนมราบรื่น นับแต่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อปี ๑๙๘๐. ตลอดระยะเวลา ๔๐ ปีที่ผ่านมา ประเทศของเราทั้งสองได้รักษาและสร้างเสริมความสัมพันธ์ ให้เจริญงอกงามอย่างต่อเนื่อง ทั้งได้ร่วมมือช่วยเหลือในกิจการด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงาน การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ด้วยความเป็นมิตร ความเคารพยกย่อง และความปรารถนาดีต่อกัน. ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือที่มีอยู่ระหว่างประเทศทั้งสอง บนพื้นฐานแห่งความสัมพันธ์ที่แนบแน่น กอปรกับความตั้งใจของท่าน ที่จะพยายามส่งเสริมสัมพันธไมตรี และความร่วมมือในกิจการทุกด้านให้เพิ่มพูนมากขึ้น ไม่เพียงจะทำให้ประเทศของเรา มีความเข้าใจอันดี และความเจริญร่มเย็นเท่านั้น หากยังจะเป็นผลเกื้อกูลให้นานาประเทศในภูมิภาคนี้และทั่วโลก มีเสถียรภาพ และสันติสุขที่ยั่งยืนตลอดไปอีกด้วย.
ในการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน ขอให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากข้าพเจ้า และทางราชการไทยจะอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือทุกประการเท่าที่จะกระทำได้ เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลในหน้าที่ของท่าน.

(๑)  Mr. Issa Abdullah Jaber Al-Alawi