พระราโชวาท สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ประจำปีการศึกษา 2564 และ 2565 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วันพุธ ที่ 30 สิงหาคม 2566

วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ.2566

พระราโชวาท
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
ประจำปีการศึกษา 2564 และ 2565
ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
วันพุธ ที่ 30 สิงหาคม 2566

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ประจำปีการศึกษา 2564 และ 2565 ในวันนี้. ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคน ที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ.
ศิลปวัฒนธรรม เป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติ ที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ เกียรติภูมิ และความเจริญเป็นอารยะ ซึ่งบรรพบุรุษได้สร้างสมมา ให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบทอดให้ดำรงอยู่ต่อไป. ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในศิลปะแขนงต่าง ๆ และมีความเข้าใจถ่องแท้ในศิลปวัฒนธรรม จึงควรจะได้ภาคภูมิใจในความรู้ความเชี่ยวชาญของตน แล้วถือเป็นหน้าที่อย่างสำคัญ ที่จะต้องสืบทอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ โดยตั้งใจสร้างสรรค์งานศิลปะ และปฏิบัติงานศิลปวัฒนธรรม อย่างเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถ ด้วยความอุตสาหะวิริยะ. พร้อมกันนั้น ทุกคนต้องประพฤติตนแบบผู้มีวัฒนธรรม คือปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบแบบแผนที่ดีงาม และร่วมกันเสริมสร้างความสุขความเจริญให้แก่สังคมส่วนรวมด้วย. ถ้าทำได้ดังนี้ แต่ละคนก็จะสามารถธำรงรักษาและพัฒนาศิลปวัฒนธรรมของเรา ให้ยิ่งเจริญวัฒนา เป็นสมบัติอันล้ำค่าอยู่คู่ชาติและประชาชนชาวไทยสืบไป.
ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคน มีความสุข ความสำเร็จ ในชีวิตและหน้าที่การงาน ทั้งขอให้ทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ มีความผาสุกสวัสดีโดยทั่วกัน.