วันอังคาร ที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2563

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2563

ข่าวในพระราชสำนัก
พระบรมมหาราชวัง
วันอังคาร ที่ ๑๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓

เมื่อวันจันทร์ ที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๓ เวลา ๑๙.๔๓ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ
พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปทรงเปิดการประชุมคณะกรรมการโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ อาคาร บก.หน่วยราชการในพระองค์ ๙๐๔ (อาคาร ๒) พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี
สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา คณะกรรมการโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะกรรมการชุมชนจากพื้นที่โครงการ ฯ ในตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงอาคาร บก.หน่วยราชการในพระองค์ ๙๐๔ (อาคาร ๒) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ในพระบรมราชูปถัมภ์ จากนั้น พระราชทาน “ต้นรวงผึ้ง” ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้มงคล และ “ต้นมะม่วงมหาชนก” ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้น แก่ผู้แทนคณะกรรมการชุมชนหมู่บ้านสาละวะ และหมู่บ้านไล่โว่ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าห้องประชุม สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา องค์ประธานกรรมการโครงการ ฯ กราบบังคมทูลรายงานเกี่ยวกับโครงการ ฯ
ในโอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัสเปิดการประชุม ความว่า
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ ในจังหวัดกาญจนบุรีนั้น เป็นแหล่งธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์
จนได้รับการประกาศยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลกของประเทศไทย พื้นที่ดังกล่าว นอกจากจะอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนต่าง ๆ จึงมีคนในพื้นที่อยู่ร่วมกับป่าเป็นจำนวนมาก ในเรื่องคนอยู่ร่วมกับป่านี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เคยพระราชทานแนวพระราชดำริไว้ เป็นใจความว่า การที่จะรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ได้อย่างยั่งยืนนั้น
จะต้องทำให้คนในชุมชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับป่า และช่วยกันดูแลรักษาป่า
ให้ดำรงความอุดมสมบูรณ์ไว้ได้ตลอดไป จึงเป็นที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง ที่คณะกรรมการโครงการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ได้สืบสานแนวพระราชดำริ โดยจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ในด้านต่าง ๆ ของคนในชุมชน และได้ร่วมมือ
ร่วมใจกันดำเนินงานอย่างเข้มแข็ง จนโครงการพัฒนาก้าวหน้ามาโดยลำดับ หวังว่าทุกคนจะร่วมมือร่วมงานกัน ให้พร้อมเพรียงเหนียวแน่นยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อพัฒนาชุมชนให้เจริญก้าวหน้าไป อย่างสอดคล้องสมดุลกับ
การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ อันจะทำให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างมีความสุข และประเทศชาติของเรามีความเจริญมั่นคงอย่างยั่งยืน

/จากนั้น …

– ๒ –

จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทอดพระเนตรวีดิทัศน์การดำเนินงานโครงการ ฯ และพระราชทานพระบรมราโชบายในการดำเนินงานโครงการ ฯ สมควรแก่เวลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินกลับ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
ทรงดำเนินการประชุมคณะกรรมการโครงการ ฯ ต่อ
โครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี
ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระราชปณิธานสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เรื่องการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตชายแดนที่ความเจริญยังเข้าไปไม่ถึง ทำให้ประชาชนมีความยากลำบากในการดำรงชีวิต รวมทั้งทรงเห็นว่าพื้นที่โครงการเป็นชุมชนอยู่ติดชายแดน อันถือว่ามีความสำคัญต่อความมั่นคงของประเทศ และเป็นพื้นที่มรดกโลกของประเทศไทยที่ควรได้รับการพัฒนาและอนุรักษ์อย่างยั่งยืน เพื่อให้คนอยู่กับป่าอย่างสมดุล และรักษาต้นน้ำ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ในการนี้ จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะกรรมการ
เพื่อดำเนินงานตามโครงการ ฯ เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ
พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงดำรงตำแหน่ง
องค์ประธานกรรมการ นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการ ฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณี
สิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ในฐานะองค์ประธานกรรมการ ได้รับพระราชทานพระบรมราโชบายจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแนวทางในการทำงานกับประชาชนที่อยู่ห่างไกล โดยเฉพาะอยู่ติดชายแดน และพื้นที่มรดกโลกที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็นหัวใจหลักของความเป็นมรดกโลก โดยให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย และปัญหาเรื่องเส้นทางสัญจรเข้าออกชุมชนที่ทรงทราบว่ามีความยากลำบากในการเดินทาง และเรื่องสุขภาพที่สัมพันธ์กับเรื่องเส้นทางสัญจรเป็นลำดับต้นในการดำเนินงาน
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร
มหาวัชรราชธิดา ทรงเน้นย้ำว่า ทรงน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการสร้างความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา มาเป็นแนวทางการทรงงานในโครงการ ฯ รวมทั้ง
พระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในเรื่องการ
สืบสาน รักษา ต่อยอด ในการดำเนินโครงการ ฯ ซึ่งมีการประสานความร่วมมือร่วมใจของส่วนราชการ กรรมการชุมชน และประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งให้ความสำคัญต่อกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่มรดกโลก อีกทั้งยังทรงเน้นย้ำถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน และการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชน
ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป